จากกรณี เมื่อวันที่ 8 ก.ค. ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค.กล่าวระหว่างแถลงสถานการณ์โควิด 19 ประจำวันว่า ที่ประชุมศบค.ชุดเล็กวันนี้ ได้พูดคุยกันถึง “มาตรการทางสังคม” ที่อีโอซี ของกระทรวงสาธารณสุขนมาหารือ ด้วยความเป็นห่วงถึงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อที่เพิ่มจำนวนขึ้น มีรายงานผู้เสียชีวิตสูงขึ้น ซึ่งหากไม่นับตัวเลขผู้ติดเชื้อจากเรือนจำก็ยังถือว่าสูง และไม่จำกัดอยู่ในวงแคมป์คนงานหรือแรงงานต่างด้าว แต่อยู่ในลักษณะชุมชน สถานประกอบการ และผู้ติดเชื้อเป็นคนไทยปริมาณสูงมาก กระทรวงสาธารณสุขจึงเสนอให้ปรับมาตรการ ทั้งมาตรการด้านสาธารณสุข และ มาตรการสังคม เสนอ ศปก.ศบค. ในการประชุมเช้าวันนี้ โดยจะปรับให้มีความเข้มข้นมากขึ้น
โดยมีหลักการว่า ให้จำกัดการเดินทางออกนอกพื้นที่ โดยเฉพาะ “ห้ามการเคลื่อนย้ายระหว่างจังหวัด” ซึ่งในที่ประชุมได้หารือไปยังมหาดไทย กลาโหม ศปม. เพื่อให้มีการตั้งจุดตรวจ เพื่อลดการเคลื่อนย้ายข้ามพื้นที่ มีการเสนอให้ปรับมาตรการเวิร์กฟอรมโฮม ทั้งภาครัฐภาคเอกชนให้สูงสุด มีการเสนอให้ภาคประชาชนให้ความร่วมมือในการเปิด-ปิดกิจการ เพื่อลดการเคลื่อนย้าย การเดินทางออกนอกพื้นที่ของประชาชน เพื่อให้อยู่บ้าน ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ โดยสถานที่ที่มีการพูดถึงจะมีลักษณะทั้ง ห้างสรรพสินค้า กิจการประเภทเดียวกัน ร้านสะดวกซื้อ ร้านข้าวต้มรอบดึก ตลาด ซึ่งจะมีการหารือกันเพื่อกำหนดเวลาปิดกิจการ เพื่อลดการที่ประชาชนจะเดินทางออกจากบ้าน
นอกจากนี้ยังมีการหารือถึงเรื่องการขนส่งสาธารณะ ในเมื่อลดการเคลื่อนย้ายของประชาชนลงแล้ว จะต้องมีการปรับเวลาการให้บริการขนส่งสาธารณะให้สอดคล้องกับมาตรการที่สาธารณสุขเสนอ
โดยที่ประชุมได้มีความเป็นห่วงด้วยว่า การลดเวลาต่างๆ การปรับมาตรการต่างๆ ก็จะคำนึงถึงการคงไว้ซึ่งความจำเป็น ยกตัวอย่าง ฝเช่น สาธารณูปโภค อาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต ที่อาจจะจำเป็นต้องเปิด หรือตลาด ร้านขายเครื่องมืออุปกรณ์ช่าง เพราะหากมีการจำกัดเวลาแล้วเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น ประชาชนยังคงต้องได้รับความปลอดภัยด้วย
ขอย้ำว่านี่คือมาตรการที่ทางกระทรวงสาธารณสุขหารือกัน และนำเสนอ ศบค.ชุดเล็กในวันนี้ แต่จะต้องมีการนำเสนอไปยังศบค. ชุดใหญ่ ที่จะมีการประชุมกันในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้ เวลา 10.00 น. ดังนั้นข้อเสนอของกระทรวงสาธารณสุขในวันนี้ยังไม่มีผล เพื่อให้ ศบค. ชุดใหญ่พิจารณาและอาจจะต้องมีการปรับรายละเอียดเพื่อให้สอดคล้องต่อสถานการณ์ด้วย
“ไม่มีคำว่า ล็อกดาวน์ สิ่งที่สาธารณสุขเสนอวันนี้ เป็นเรื่องของการปรับมาตราการ โดยจะมีรายละเอียดว่ากิจการหรือกิจกรรมใด มีการปรับระยะเวลา จะต้องเป็นอย่างไร พื้นที่ไหน จังหวัดไหน ซึ่งตรงนี้ยังไม่ได้มีข้อสรุป ต้องนำเสนอที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ เพื่อพิจารณาและอนุมัติในวันพรุ่งนี้”
ส่วนการตั้งคำถามเรื่องการเดินทางข้ามจังหวัด ว่าสามารถเดินทางได้หรือไม่ หรือหากมีความจำเป็นต้องทำอย่างไร พญ.อภิสมัย ชี้แจงว่า จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้น ในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทาง ศบค.ได้เน้นย้ำเสมอให้งดเว้นการเดินทาง ยกเว้นกรณีมีความจำเป็นจริงๆ ซึ่งขณะนี้พบว่า มีบุคคลที่อยู่ระหว่างการรอผลตรวจว่าติดเชื้อโควิด ไม่กักตัว และเดินทาง จึงขอความร่วมมือทางโรงพยาบาลให้ช่วยเน้นย้ำว่า ขณะที่รอผลตรวจไม่ควรเดินทาง
ทั้งนี้ยังรวมไปถึงกรณีผู้ที่รู้ผลตรวจว่าติดเชื้อและพยายามเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อไปรับการรักษา กรณีนี้ไม่แนะนำ ขอเน้นย้ำว่าควรพักผ่อน พักปอด เพื่อลดความเสี่ยงอาการทรุด และการแพร่กระจายเชื้อ
จากการแถลงข่าวดังกล่าวนั้น ผู้ประกาศข่าวชื่อดัง อย่าง สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว ได้มีการแกะคำแถลงดังกล่าว โดยมีการยืนยันว่า “ไม่มีคำว่าล็อคดาวน์” นะครับ เป็นการปรับมาตรการให้เข้มข้นขึ้น ประมาณว่า กำหนดให้กิจการอะไร กำหนดเวลาเปิดปิด เพื่อลดการเคลื่อนย้าย เพื่อให้อยู่บ้าน