ภาวะฉุกเฉินรอบนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันจันทร์ (12 ก.ค.) จนถึงวันที่ 22 ส.ค. ซึ่งอาจส่งผลให้การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในโตเกียวต้องจัดขึ้นโดยไม่มีผู้เข้าชม “เราต้องดำเนินการเด็ดขาดมากขึ้นเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดทั่วประเทศ โดยคำนึงถึงผลกระทบของเชื้อไวรัสชนิดกลายพันธุ์” โยชิฮิเดะ สุงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวหลังทำการตัดสินใจอย่างเป็นทางการ ในที่ประชุมคณะทำงานเฉพาะกิจ เพื่อบังคับใช้ภาวะฉุกเฉินในโตเกียว และต่อเวลาภาวะฉุกเฉินที่บังคับใช้อยู่ในจังหวัดโอกินาวา
จะมีการขยายการบังคับใช้ภาวะกึ่งฉุกเฉินที่มีมาตรการเข้มงวดน้อยลงต่อกิจกรรมของภาคธุรกิจ ออกไปจนถึงวันที่ 22 ส.ค. ในจังหวัดชิบะ ไซตามะ คานางาวะ และโอซากา โดยจะมุ่งเป้าเฉพาะพื้นที่เสี่ยงสูงแทนที่จะเป็นทั้งจังหวัดขณะเดียวกัน ข้อจำกัดที่บังคับใช้อยู่ใน 5 จังหวัด ได้แก่ ฮอกไกโด ไอจิ เกียวโต เฮียวโงะ และฟุกุโอกะ จะสิ้นสุดในวันอาทิตย์ (11 ก.ค.) ตามกำหนด
นับเป็นการประกาศบังคับใช้ภาวะฉุกเฉินครั้งที่ 4 ในกรุงโตเกียว นับตั้งแต่เริ่มเกิดการแพร่ระบาดเมื่อช่วงต้นปีก่อน โดยในหลักการแล้ว รัฐบาลจะสั่งห้ามร้านอาหารไม่ให้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสั่งปิดให้บริการภายในเวลา 20.00 น. ส่วนพื้นที่ที่มีการบังคับใช้ภาวะกึ่งฉุกเฉิน โดยหลักการแล้วต้องปฏิบัติตามคำสั่งห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถสั่งคลายข้อจำกัดได้ “เราหวังว่าจะสามารถยับยั้งไม่ให้ผู้คนเดินทางระหว่างช่วงวันหยุดฤดูร้อนและช่วงเทศกาลบง จนกว่าแผนการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จะมีความคืบหน้า” ยาสุโตชิ นิชิมูระ รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบการรับมือโรคโควิด-19 ของญี่ปุ่น กล่าว
ที่มา China Xinhua News