วันที่ 12 ก.ค. 64 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งยังอยู่ระหว่างการกักตัว 14 วัน และปฏิบัติงานที่บ้านพัก แม้มีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซ้ำแล้ว และมีผลออกมาเป็นลบ ไม่พบเชื้อ ได้เป็นประธานในพิธีรับมอบวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จากรัฐบาลญี่ปุ่น ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ นายนาชิดะ คาซูยะ (Mr. NASHIDA Kazuya) เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เป็นผู้แทนของแต่ละฝ่าย
ในการนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวแสดงความขอบคุณในไมตรีจิตและความห่วงใยของรัฐบาลญี่ปุ่นที่มีต่อประเทศไทย สำหรับการสนับสนุนวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในครั้งนี้ รัฐบาลไทยรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างยิ่งถึงความปรารถนาดีที่ประเทศญี่ปุ่นมอบให้มาโดยตลอด ไทยได้พยายามอย่างยิ่งในการดำเนินการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพื่อให้ทุกคนในประเทศไทยได้รับวัคซีน และมีภูมิคุ้มกันต่อโรค ความช่วยเหลือของประเทศญี่ปุ่นในครั้งนี้ มีส่วนสำคัญยิ่งที่จะช่วยเสริมกับวัคซีนที่ไทยได้จัดหามาแล้ว เพิ่มการเข้าถึงวัคซีนให้ครอบคลุมประชาชนได้มากยิ่งขึ้น ลดอัตราการเจ็บป่วยและเสียชีวิต และสนับสนุนให้ไทยสามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างเข้มแข็ง สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของญี่ปุ่นในการเสริมสร้างขีดความสามารถในด้านสาธารณสุข และการแพทย์ รวมทั้งการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการพัฒนาสังคมของไทย สุดท้าย พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวว่า ประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่นต่างมีสายสัมพันธ์ระหว่างกันที่ใกล้ชิดแน่นแฟ้นมาเป็นเวลานาน และประเทศไทยพร้อมที่จะก้าวผ่านอุปสรรคต่าง ๆ และวิกฤติครั้งนี้ไปพร้อมกับญี่ปุ่น
ขณะที่นายนาชิดะ คาซูยะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ได้มอบสารจากนายซูกะ โยชิฮิเดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นถึงนายกรัฐมนตรี และได้กล่าวว่านับถือรัฐบาลไทยในการจัดการมาตรการโควิดครั้งนี้ หวังว่าการมอบวัคซีนครั้งนี้จะมีส่วนช่วยให้มาตรการฉีดวัคซีนของไทยราบรื่นยิ่งขึ้น พร้อมกล่าวถึงความช่วยเหลือร่วมมือของไทยญี่ปุ่นที่มีมาตลอดการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเกือบ 135 ปี โดยญี่ปุ่นและไทยร่วมฝ่าวิกฤติร่วมกันมาตั้งแต่ปี 2554 และหวังว่ามิตรภาพที่มีจะช่วยให้เราผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน กลับมาสู่การเดินทางไปมาหาสู่กันด้วยรอยยิ้มเร็วที่สุด
ทั้งนี้ วัคซีนดังกล่าวได้มีการลงนามหนังสือแลกเปลี่ยนระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2564 และจัดส่งถึงไทยเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 9 กรกฎาคม 2564 โดยมีจำนวน 1,053,090 โดส ของบริษัท AstraZeneca ซึ่งผลิตที่ประเทศญี่ปุ่น โดยบริษัท KM Biologics Co., Ltd. และบริษัท Daiichi Sankyo Co., Ltd.
ขอบคุณภาพ ทำเนียบรัฐบาล