จังหวัดชลบุรี ออกประกาศเรื่อง ขอความร่วมมือประชาชนงดออกนอกเคหสถาน ประกาศเคอร์ฟิว งดออกนอกเคหสถาน 21.00-04.00 น. เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19ที่ยังมีการเเพร่ระบาด จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดย ณ วันที่ 13ก.ค.64 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 459 คน ทำให้ยอดติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 12,490 คน หายป่วยสะสม 8,018 คน รักษาตัวอยู่ 4,404 คน และเสียชีวิตสะสม 68 คน
ด้วยในปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ covid19 ในพื้นที่จังหวัดชลบุรียังคงตรวจพบผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ซึ่งทางราชการได้มีมาตรการป้องกันและควบคุมโรคโดยการตรวจหาผู้ติดเชื้อ ผู้เสี่ยงสัมผัสโรค เข้ารับการรักษาดูแลกับการแยกัก เร่งรัดกระจายและฉีดวัคซีนที่ได้รับจากส่วนกลางในพื้นที่ต่างๆ ตลอดจนมีคำสั่งปิดสถานที่กิจการ กิจกรรม ที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคมาอย่างต่อเนื่องซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตโดยปกติสุขของประชาชนโดยส่วนรวมตามสมควร
สิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ covid-19 ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี มีความจำเป็นจะต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชน หน่วยงาน องค์กรในพื้นที่จังหวัดชลบุรีทุกภาคส่วน เพื่อร่วมมือการควบคุมสถานการณ์การระบาดของโรคให้อยู่ในวงจำกัด มิให้มีการแพร่ระบาดของโรคกระจายเป็นวงกว้างจนยากเกินกว่าการควบคุมได้
จังหวัดชลบุรีขอความร่วมมือให้ประชาชนงดออกนอกเคหสถาน ตั้งแต่เวลา 21.00 น. จนถึง 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น
จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน
ประกาศ ณ วันที่ 12 กรกฎาคม 2564
ด้านสถานการณ์โควิด-19ของจังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 13ก.ค.64 มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 459 ราย
1. Cluster สถานประกอบการแห่งหนึ่ง เชื่อมโยงเหตุการณ์แคมป์ก่อสร้าง บริษัท ซินเท็คฯ 11 ราย
2. Cluster แคมป์ก่อสร้าง บริษัท ซินเท็คฯ 4 ราย
3. cluster สถานประกอบการแห่งหนึ่งในอำเภอบ้านบึง 4 ราย
4. Cluster บริษัทไทยคชสารฯ 2 ราย
5. Cluster ชุมแพรหมูกระทะ 1 ราย
6. Cluster สถานประกอบการแห่งที่สองในอำเภอบ้านบึง 1 ราย
7. ผูู้ป่วยยืนยันจากการร่วมวงสังสรรค์ 1 ราย
8. บริษัท วอสเชน เมนูเฟกเจอริ่ง จังหวัดระยอง 2 ราย
9. บริษัท เอ เอช เบรก (ประเทศไทย) จังหวัดระยอง 1 ราย
10. อาชีพเสี่ยงพบปะผู้คนจำนวนมาก 10 ราย
11. บุคลากรทางการแพทย์ 4 ราย
12. เจ้าหน้าที่เรือนจำ 1 ราย
13. สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน (บุคคลใกล้ชิด) 28 ราย
14. ให้ประวัติเดินทางไปต่างจังหวัด
14.1 กทม. 8 ราย
14.2 จังหวัดสมุทรปราการ 1 ราย
15. สัมผัสผู้ป่วยยืนยันมาจากต่างจังหวัด
15.1 จังหวัดสมุทรสาคร 2 ราย
15.2 จังหวัดฉะเชิงเทรา 1 ราย
16. สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน
16.1 ในครอบครัว 98 ราย
16.2 จากสถานที่ทำงาน 117 ราย
17. สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน (อยู่ระหว่างสอบสวนโรค) 91 ราย
18. อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 71 ราย
วันนี้ได้รับรายงานการค้นหาผู้สัมผัสทั้งหมดจำนวน 673 ราย, ค้นหาเชิงรุกเบื้องต้น จำนวน 957 ราย, และอยู่ระหว่างการรอรับรายงานการค้นหาเชิงรุกเพิ่มเติม
การระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ เริ่มจากแหล่งสถานบันเทิง สู่ครอบครัว มาสู่เพื่อนร่วมงาน มาสู่ชุมชนที่พักอาศัยพนักงาน แรงงาน ซึ่งมีปัจจัยเสี่ยงมาจากการทานข้าวร่วมกัน หรือมีกิจกรรมใกล้ชิด สังสรรค์แม้จะเป็นเพียงกลุ่มเล็ก 2-3 คนในเพื่อนสนิท
ขณะนี้มีการระบาดเป็นกลุ่มก้อน (Cluster) ในสถานประกอบการ 11 แห่ง และตลาด 5 แห่ง แคมป์คนงานก่อสร้าง 10 แห่ง และชุมชน 3 แห่ง
ขอความร่วมมือ ตลาดดังนี้
1. ผู้ค้าหรือลูกจ้าง ไม่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ค้าหรือลลูกจ้างร้านอื่น ๆ ไม่ทานอาหารใกล้ชิดด้วย
2. ไม่สังสรรค์
3. ป่วยต้องหยุด
4. ทำความสะอาดห้องน้ำสม่ำเสมอ โดยเฉพาะจุดสัมผัสร่วม หลังออกจากห้องน้ำต้องล้างมือทุกครั้ง ไม่ใช้มือจับหน้าโดยไม่ล้างมือ
5. ใส่แมสก์ตลอดเวลา
6. เมื่อมีผู้ติดเชื้อในตลาด หากมีการตรวจเชิงรุก ขอให้รับการตรวจเชิงรุกทุกคน
7. เมื่อมีการปิดตลาด ขอความร่วมมือผู้สัมผัส หรือมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อให้หยุดอยู่บ้าน
8. ไม่รับแรงงานต่างด้าวจากพื้นที่เสี่ยง
และขอความร่วมมือในสถานประกอบ มาตรการดังนี้
1. ไม่สังสรรค์ ไม่ตั้งวงดื่มเหล้า
2. อาหารต้องไม่ทานใกล้ชิดด้วย
3. ป่วยต้องหยุด
4. จุดสัมผัสร่วม ต้องทำความสะอาดบ่อยๆ เช่น ลูกบิด ราวบันได สแกนนิ้วมือ เซ็นชื่อแล้วต้องล้างมือทันที
5. เคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล ใส่แมสก์ตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ อยู่ห่างๆกัน
สถานที่พักพนักงานสถานประกอบการ อาจจะเป็นที่หอพักที่สถานประกอบการหาให้ หรือหอพักที่ไปเช่าอยู่เอง ซึ่งเป็นที่อยู่ของพนักงานหลายๆบริษัทอยู่ปะปนกัน ซึ่งจะเป็นแหล่งกระจายเชื้อข้ามบริษัท เมื่อเริ่มมีกระระบาดในบริษัท ขอความร่วมมือพนักงานบริษัทเคร่งครัดในมาตรการส่วนบุคคล อยู่ห่างกัน ไม่ข้ามไปคุยกันกับห้องพักห้องอื่น ไม่ทานข้าวร่วมกัน ไม่สังสรรค์ อสม. เจ้าหน้าที่ ประชาชน ช่วยกันสอดส่อง
ขณะนี้มีการระบาดในวงกว้างใน กทม. ปริมณฑล อาจมีผู้ติดเชื้อเดินทางเข้าชลบุรี รวมทั้งมีผู้ติดเชื้อในชลบุรี อาจยังไม่ทราบว่าตนเองติดเชื้อปะปนอยู่ในสังคม โดยที่เราไม่ทราบ จึงขอให้เคร่งครัดในมาตรการอย่างยิ่งยวด โดยเฉพาะสุขอนามัยส่วนบุคคล เชื้อเข้าทางจมูกปากตา ต้องไม่จับหน้าโดยไม่ล้างมืออย่างเด็ดขาด สวมแมสก์ตลอดเวลา
พยายามออกจากบ้านให้น้อยลง อยู่ห่างกัน ล้างมือบ่อยๆ
สำหรับผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ต้องมีการกักตัวอย่างเข้มงวด ไม่ออกไปแพร่เชื้อ แม้การตรวจครั้งแรกจะไม่พบเชื้อ แต่มีหลายๆ รายตรวจพบเชื้อในครั้งที่ 2 ระหว่างการกักตัว 14 วัน
จังหวัดชลบุรีจะยังคงดำเนินการค้นหาผู้สัมผัส และค้นหาเชิงรุกอย่างเข้มข้น เพื่อนำมาตรวจหาเชื้อโควิด-19 และนำมารักษาไม่ให้แพร่ระบาดต่อไป