16ก.ค.64 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. แถลงข่าวที่ทำเนียบรัฐบาลเกี่ยวกับสถานการณ์เชื้อโควิด-19ในประเทศไทยประจำวัน พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่เพิ่ม 9,692 ราย เเละ เสียชีวิตเพิ่มอีก 67 ราย พร้อมกับมีการเผยข้อสรุป หลังจากในวันนี้ได้มีการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
โดย ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ มีมติให้ฉีดวัคซีนเข็ม 3 ให้กับบุคลากรทางการแพทย์เป็นวัคชีนแอสตราเซเนกา หรือ mRNA เพื่อกระตุ้นภูมิ
ในส่วนของประชาชน ที่ประชุมมีมติให้ใช้วัคซีนสูตรผสมได้ โดยให้ซิโนแวคเข็ม 1 และสลับเข็มที่ 2 เป็นแอสตราเซเนกา ซึ่งปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้รายงานว่ามีผลการศึกษาจากหลายหน่วยงานที่เริ่มใช้สูตรผสมแล้วมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ อาจจะมีการเสนอ ปรับมาตรการให้เข้มข้นขึ้น หรือ อาจปิดบางกิจการเพิ่มเติม หลังประกาศล็อกดาวน์ มาเเล้วประมาณ 5 วันตั้งเเต่วันที่ 12ก.ค.64 เนื่องจากพบว่า ยังมีประชาชนเดินทางข้ามจากพื้นที่ควบคุม และมีการจับกุมผู้ฝ่าฝืนเคอร์ฟิวเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็ต้องมีการทบทวนมาตรการต่างๆอีกครั้งเพื่อให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด
ขณะเดียวกัน มีรายงานจาก reuters ว่า สหภาพยุโรป หรือ อียู มีมติวันนี้ ถอดประเทศไทย กับประเทศรวันดา รวม 2 ประเทศ ออกจากบัญชีรายชื่อประเทศที่มีความปลอดภัยจากโควิด-19 เนื่องจากสถานการณ์การติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มสูงขึ้น ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา อียูเพิ่งได้จัดให้ไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความปลอดภัยจากโควิด-19
ขณะเดียวกันวันนี้ อียูได้เพิ่มชื่อยูเครน เข้าอยู่ในบัญชีรายชื่อกลุ่มประเทศที่อียูเสนอแนะให้ชาติสมาชิกยกเลิกข้อจำกัดด้านการเดินทาง ซึ่งขณะนี้มีอยู่ 23 ประเทศ ประกอบด้วย แอลเบเนีย อาร์เมเนีย ออสเตรเลีย อาเซอร์ไบจาน บอสเนีย บรูไน แคนาดา อิสราเอล ญี่ปุ่น จอร์แดน โคโซโว เลบานอน มอนเตเนโกร นิวซีแลนด์ กาตาร์ มอลโดวา นอร์ทมาเซโดเนีย ซาอุดีอาระเบีย เซอร์เบีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ไต้หวันและสหรัฐ ส่วนฮ่องกงและมาเก๊า เขตบริหารพิเศษของประเทศจีน ถูกจัดอยู่ให้ในบัญชีเดินทางปลอดภัย ที่อียูอนุญาตให้พลเมืองเดินทางเข้าได้แล้ว
ขอบคุณ
สำนักข่าวไทย