หลังจากที่เมื่อวาน ศบค. ได้มีมติขยายเวลาล็อกดาวน์ อีก 14 วัน นอกจากนี้ในที่ประชุมยังมีมติขยายพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือพื้นที่สีแดงเข้ม จากเดิม 13 จังหวัด เป็น 29 จังหวัด ดังนี้
1.กรุงเทพมหานคร
2.กาญจนบุรี
3.ชลบุรี
4.ฉะเชิงเทรา
5.ตาก
6.นครปฐม
7.นครนายก
8.นครราชสีมา
9.นราธิวาส
10.นนทบุรี
11.ปทุมธานี
12.ประจวบคีรีขันธ์
13.ปราจีนบุรี
14.ปัตตานี
15.พระนครศรีอยุธยา
16.เพชรบุรี
17.เพชรบูรณ์
18.ยะลา
19.ระยอง
20.ราชบุรี
21.ลพบุรี
22.สงขลา
23.สิงห์บุรี
24.สมุทรปราการ
25.สมุทรสงคราม
26.สมุทรสาคร
27.สระบุรี
28.สุพรรณบุรี
29.อ่างทอง
ส่วนการเดินทางข้ามจังหวัดนั้น ให้ประชาชนหลีกเลี่ยง หรือชะลอการเดินทางข้ามพื้นที่จังหวัดในช่วงระยะเวลานี้โดยไม่มีเหตุจำเป็น เพื่อประโยชน์ส่วนรวม กรณีที่จำเป็นต้องเดินทางข้ามเขตพื้นที่อาจไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทางและอาจต้องใช้ระยะเวลามากกว่าปกติ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามมาตรการข้อห้าม ข้อยกเว้นและแนวปฏิบัติรวมทั้งการพิจารณากรณีหรือบุคคลที่ได้รับการยกเว้นตามที่กำหนดไว้ในข้อ 5 แห่งข้อกำหนดฉบับที่ 28 ลงวันที่ 17 กรกฎาคม 2564
ซึ่งคือการกำหนดเงื่อนไขใช้เส้นทางคมนาคมและการตรวจคัดกรองการเดินทางเฉพาะเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ให้กับพนักงานเจ้าหน้าที่โดยการสนับสนุนจากปฎิบัติการจากศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง กระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งจุดตรวจ ด่านตรวจหรือจุดสกัดในเส้นทางคมนาคมเข้าออกเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เพื่อการคัดกรองชะลอหรือสกัดกั้นการเดินทางออกนอกเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เพื่อเดินทางไปยังพื้นที่อื่น โดยให้เป็นไปตามแนวทางที่ศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 กำหนดเป็นระยะเวลาต่อเนื่องอย่างน้อย 14 วัน
กำหนดให้บรรดามาตรการ ข้อห้าม และข้อปฏิบัติสำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ตามที่กำหนดไว้ในข้อกำหนด (ฉบับที่ 28) ลงวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 ได้แก่ การลดและจำกัดการเคลื่อนย้ายเดินทาง การห้ามออกนอกเคหสถานในระหว่างเวลา 21.00 น. ถึง 04.00น. ของวันรุ่งขึ้น การขนส่งสาธารณะ การปฏิบัติงานของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐและภาคเอกชน และมาตรการควบคุมบูรณาการเร่งด่วนสำหรับสถานที่ กิจการ หรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยง รวมถึงบรรดามาตรการ หลักเกณฑ์ หรือแนวปฏิบัติที่พนักงานเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้กำหนดขึ้นภายใต้ข้อกำหนดดังกล่าวเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับข้อกำหนดนี้ ยังคงใช้บังคับต่อเนื่องออกไป สำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดทุกจังหวัด จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2564
การปรับเงื่อนไขการใช้เส้นทางคมนาคมและการตรวจคัดกรองการเดินทางในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด
ให้พนักงานเจ้าหน้าที่โดยการสนับสนุนจากศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) กรุงเทพมหานคร จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งจุดตรวจ ด่านตรวจ หรือจุดสกัด ในเส้นทางคมนาคมข้ามเขตจังหวัด และการเดินทางออกนอกเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดไปยังพื้นที่อื่น เพื่อการตรวจคัดกรอง ชะลอ หรือสกัดกั้นการเดินทางของบุคคล โดยให้เป็นไปตามแนวทางการปฏิบัติที่ศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด - 19 (ศปก.ศบค.) กำหนด และให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามมาตรการ ข้อห้าม ข้อยกเว้น และแนวปฏิบัติ รวมทั้งการพิจารณากรณีหรือบุคคลที่ได้รับยกเว้น ตามที่ได้กำหนดไว้ในข้อ 5 แห่งข้อกำหนด (ฉบับที่ 28) ลงวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2564
ทั้งนี้ ทาง ศบค. เคยได้ชี้แจ้งถึงกรณี ที่ประชาชนต้องเดินทางข้ามจังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม (กรณีจำเป็น) ว่าต้องทำอย่างไร
ให้แสดงหลักฐานกับเจ้าหน้าที่ด่านตรวจดังนี้
- เอกสารรับรองที่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้อำนวยการเขต
- ถ้าไม่มีข้อ 1. ให้ลงทะเบียนการเดินทางข้ามพื้นที่ ผ่านทาง เว็บไซต์ หยุดเชื้อ เพื่อชาติ หรือ https://covid-19.in.th/ เพื่อนำ QR code แสดงแก่เจ้าหน้าที่
- ให้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันไทยชนะ ที่ด่านตรวจ