ฝากขัง ป้าเป้า พร้อมม็อบทะลุฟ้า ฐานร่วมกันประทุษร้ายเจ้าพนักงาน

จากกรณี เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน (คฝ.) เข้าสลายการชุมนุม กลุ่ม "ทะลุฟ้า" ที่จัดกิจกรรม “11 สิงหา ไล่ล่าทรราช” บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อเดินเท้าไปยังบ้านพัก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ารวบตัวแกนนำผู้ชุมนุมไปหลายคน โดยหนึ่งในนั้น คือ นางวรวรรณ แซ่อั้ง หรือ “ป้าเป้า” ขวัญใจชาวม็อบ

สำหรับความคืบหน้ากรณีดังกล่าวนั้น พนักงานสอบสวน สน.พญาไท ได้นำตัว นางวรวรรณ แซ่ตั้ง อายุ 67 ปี หรือ ป้าเป้า ขวัญใจชาวม็อบ ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ชุมนุม “ทะลุฟ้า” ที่จัดกิจกรรม 11 สิงหา ไล่ลาทรราช และถูกจับ (11 ส.ค.) กับพวกรวมสองคน มาขออำนาจศาลฝากขัง กรณี ป้าเป้า กับพวกผู้ชุมนุมกลุ่มทะลุฟ้าเดินทางมาจากถนนพญาไทราชวิถีมุ่งหน้าถนนวิภาวดีมุ่งหน้าบ้านพักของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แล้วเกิดปะทะกับกลุ่มตำรวจปราบจลาจล จึงถูกกล่าวหาว่าร่วมกันกับพวกใช้กำลังประทุษร้ายเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 296 และฝ่าพ.ร.กฉุกเฉิน

ทั้งนี้ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธพนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไว้ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดและขอคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราว ทั้งนี้ปรากฏว่าคำร้องของพนักงานสอบสวนยังไม่เรียบร้อยมีการนำไปแก้ไข ศาลจึงระบุคำร้องและ ยังไม่มีคำสั่งใดๆ
 

ด้าน นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความจากศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า ตอนนี้ "ป้าเป้า" ถูกควบคุมตัวอยู่ที่กองบัญชาการตํารวจปราบปรามยาเสพติด หรือ บช.ปส. ซึ่งโดนข้อหาหนัก คือ 1.ฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ2.ร่วมกันทำร้ายเจ้าพนักงานโดยมีหรือใช้อาวุธ และมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง

นายนรเศรษฐ์ กล่าวต่อว่า จากการสอบถามพูดคุยกับ "ป้าเป้า" ยืนยันว่าไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะที่ถูกกล่าวหาว่าใช้อาวุธนั้นไม่มี ส่วนจุดที่ถูกจับนั้น เท่าที่ทราบตรงบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ตามที่ปรากฎเป็นข่าว แต่บันทึกการจับกุม บอกแค่ว่าบนรอบวงเวียนอนุสาวรีย์ชัยฯ แต่ไม่ได้ระบุจุดชี้ชัดว่าจับตรงจุดไหน 

ทั้งนี้ ซึ่งรายละเอียดโดยปกติแล้ว ในบันทึกจับจุม จะไม่ระบุรายละเอียดลงไป เป็นเรื่องที่ต้องว่าความตามกันในชั้นศาล ส่วนขั้นตอนต่อไป “ป้าเป้า” จะถูกส่งตัวไปฝากขังวันนี้ (13ส.ค.) ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ก็จะฝากขังที่ศาลอาญา ถ้าเกิดศาลอาญาให้ฝากขัง ก็จะทำเรื่องประกันตัวต่อไป

ส่วนกรณีที่มีผู้ชุมนุมคนอื่นๆถูกจับกุมไปตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค. 10 ส.ค. และเมื่อวันที่ 11 ส.ค. ทางศูนย์ทนายความให้ความช่วยเหลือโดยถ้าเป็นในส่วนของผู้ชุมนุมไม่ว่าจะเป็นวันที่ 7 ส.ค. หรือ 10 ส.ค. ก็ดี ซึ่งจำนวนขั้นต่ำประมาณ 47 คน ได้รับอนุญาตให้ประกันตัวทั้งหมดแล้ว ส่วนของวันพรุ่งนี้ก็จะมีการไปประกันตัวที่ศาลอาญาและก็ศาลแขวงพระนครเหนือทั้งหมดทุกคน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews