วันที่ 17 ส.ค.64 นายบุญส่ง จูกูล อายุ 49 ปี อาชีพทนายความ อยู่เลขที่ 40 ม.12 ต.สะเดา อ.นางรอง เล่าว่า เมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนได้พาพ่อวัย 70 ปี แม่วัย 70 ปี และอาวัย 65 ปี ไปฉีดวัคซีนเข็ม 2 ที่สนามฟุตบอลช้าง อารีน่า หลังจากได้รับวัคซีน Sinovac เข็มแรก เมื่อวันที่ 24 ก.ค.ไปแล้ว โดยวันนั้นมีคนเป็นจำนวนมาก ตนเองต้องเข็นรถให้พ่อ แล้วมาเกิดพลัดหลงกันกับแม่ โดยไม่รู้ว่าแม่เดินไปทางไหน คิดว่าแม่น่าจะไปหาหมอถูกเพราะเป็นคนแข็งแรง ประกอบกับแม่มีเอกสารใบนัดติดตัวไปด้วย
หลังจากฉีดวัคซีนเสร็จก็มาเจอกัน เห็นแม่ยิ้มมาด้วยความดีใจ พร้อมกับบอกตนเองว่า "แม่ได้ตั้ง 2 เข็ม" จึงตรวจดูพบว่าแขนทั้งสองข้างของแม่ มีร่องรอยการฉีดทั้งสองข้าง โดยสอบถามแม่เล่าว่า ได้เดินเข้าช่องรับฉีดวัคซีนตามปกติ ยื่นเอกสารให้เจ้าหน้าที่ แล้วรับการฉีดวัคซีน จากนั้นแม่อาจจะไม่รู้ว่าจะต้องรอรับเอกสารและเดินท่าทาง งงๆ จนเจ้าหน้าที่อีกคนเรียกว่า "ยายมาฉีด เดี๋ยวหนูฉีดให้" แม่จึงฉีดซ้ำอีกเข็ม โดยยื่นแขนอีกข้างให้เจ้าหน้าที่ฉีด เพราะข้างหนึ่งฉีดไปแล้ว
นายบุญส่ง กล่าวด้วยว่า หลังจากนั้น จึงคอยเฝ้าดูอาการของแม่มาจนถึงวันที่ 17 ส.ค.64 พบว่าแม่ยังแข็งแรงดี โดยมีหมอคอยสอบถามอาการเป็นระยะ ตอนนี้เท่ากับแม่ได้รับวัคซีนบูสเตอร์โดสไปแล้ว แต่สิ่งที่ตนจะฝากถึงคือผู้ที่จะพาพ่อแม่ที่ชราไปฉีดวัคซีน ให้พึงระวัง อย่าให้เหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก ส่วนของเจ้าหน้าที่ที่ฉีดวัคซีนให้ถึง 2 เข็มรวด อาจจะเป็นเพราะในนั้นคงวุ่นวาย แต่อยากจะให้ละเอียดรอบคอบมากกว่านี้ และอยากฝากบอกว่าวัคซีนที่หายออกจากระบบ 1 โดส มาอยู่กับแม่ไม่ได้หายไปไหน
ด้าน นางสมหวัง จูกูล อายุ 70 ปี ยายที่ได้รับวัคซีน astrazeneca ถึง 2 เข็ม กล่าวว่า ตอนแรกคิดว่าเป็นวิธีการฉีดของหมอ พอมารู้จากลูกชายรู้สึกตกใจเหมือนกัน แต่ตอนนี้ตนเองก็ยังปกติ ร่างกายยังแข็งแรงดี