วันที่ 19 ส.ค.64 นายแพทย์เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านอำนวยการ รพ.มหาราชนครราชสีมา ได้ออกมาชี้แจงกรณีวัคซีนไฟเซอร์ที่ได้รับจัดสรรมากว่า 480 โดสนั้นจะจัดสรรอย่างไรและจัดสรรให้ใครพร้อมบอกเงื่อนไข
นพ.เจษฎ์ เปิดเผยสถานการณ์การฉีดวัคซีนโควิดของทางโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ว่า ในวันนี้เปิดบริการฉีดวัคซีนรอบเก็บตก สูตรสลับให้กับประชาชนที่ลงทะเบียนฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ไว้กับรพ.มหาราชฯ สำหรับผู้ที่มีคิวฉีดวัคซีนเข็มแรก ซิโนแวค ในวันที่ 14-16 ส.ค.64 และผู้ที่มีคิวฉีดเข็มที่ 2 แอสตร้าเซนเนก้าในวันนี้ โดยเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 10.00-15.00 น. ที่โคราชฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า นครราชสีมา ทั้งนี้ ไม่รับผู้ที่วันผิดนัดและไม่รับ วอล์กอิน
ส่วนกรณีที่มีการแชร์ในโลกโซเชียลว่า เลื่อนฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เข็มที่ 2 ออกไปเป็น 10 สัปดาห์ตามประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ซึ่งในเรื่องนี้ต้องขอชี้แจงเพื่อป้องกันความสับสนว่า สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนแอสตร้าฯ เข็มที่ 1 เอาไว้แล้ว ก่อนที่มีจะประกาศให้ปรับฉีดวัคซีนเป็นแบบสูตรสลับ ซึ่งระยะเวลาที่จะได้รับวัคซีนแอสตร้าฯ เข็มที่ 2 จะห่างประมาณ 12-16 สัปดาห์นั้น
ในส่วนของรพ.มหาราชนครราชสีมา ต้องขอให้ประชาชนไปฉีดวัคซีนแอสตร้าฯ เข็มที่ 2 ตามวันที่ รพ.มหาราชฯ นัดหมายเอาไว้ตามเดิม อย่าไปสับสนกับกระแสข่าวต่างๆ ที่ออกมา เพราะทางรพ.มหาราชฯ เตรียมสำรองวัคซีนไว้ให้ตามกำหนดนัดแล้ว
สำหรับผู้ที่มีคิวฉีดวัคซีนในวันเสาร์ที่ 21 ส.ค.นี้ ทางรพ.มหาราชฯ ต้องของดฉีดรอบประชาชน โดยเลื่อนฉีดออกไปเป็นวันที่ 22 ส.ค.64 เนื่องจากจะเปิดพื้นที่ให้บริการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ แก่บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า ที่เป็นกลุ่มเจ้าหน้าที่ของ รพ.มหาราชนครราชสีมา เท่านั้น
ส่วนวัคซีนไฟเซอร์ที่ได้รับบริจาคมาจากสหรัฐอเมริกา กระทรวงสาธารณสุขหนังสือถึงสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด โดยระบุถึงวัคซีนสำหรับฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์ จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม โดย กลุ่มที่ 1 เป็นกลุ่มที่เคยได้รับวัคซีนมาแล้ว จะได้วัคซีนไฟเซอร์เป็นบูสเตอร์โดส ประมาณ 14,000 กว่าโดส ทั้งจังหวัด ซึ่งถือว่าเกือบ 30 เท่าของกลุ่มที่ 2 ที่ยังไม่ได้ฉีดเลยสักเข็ม
โดยกลุ่มที่ 2 นี้จะได้โควต้ามาประมาณ 480 โดส ในขณะที่กลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับวัคซีนไฟเซอร์ตามเงื่อนไขที่คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ระบุไว้ชัดเจน ก็คือ
1.บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ทั่วประเทศ และกลุ่มเจ้าหน้าที่ที่มีความเสี่ยง
2.ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรังอายุ 12 ปี ขึ้นไป และหญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป
3.ชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย เป็นผู้สูงอายุ เป็นผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรังอายุ 12 ปี ขึ้นไป และหญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไปรวมทั้ง กลุ่มคนไทยหรือนักเรียนที่มีความจำเป็นต้องรับไฟเซอร์ที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ
4.เพื่อการศึกษาวิจัย 5,000 โดส
5.เก็บไว้เพื่อกรณีควบคุมการระบาดสายพันธุ์เดลตา ซึ่งคาดว่าทางกระทรวงฯ จะจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์มาให้ทยอยแก่กลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่มตามลำดับโดยเร็ว
ขอบคุณ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา