วันที่ 21 ส.ค.ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป.สั่งการให้พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2 บก.พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ สว.กก.2 บก.ป. พร้อมกำลังเข้าจับกุมน.ส.กวีณา สว่างพระศรีอารย์ อายุ 25 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัพระนครศรีอยุธยา ที่ 170/2564 ลงวันที่ 1 ก.ค. 64 ข้อหา “ลักทรัพย์ในเคหะสถานหรือรับของโจร”ภายในซอยหทัยราษฎร์ 39 แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ
จากการจับกุมทราบว่า น.ส.กวีณา ผู้ต้องหาเคยคบหาอยู่กับบตรชายของผู้เสียหาย และยังมาพักอาศัยอยู่ที่บ้าน ในจ.พระนครศรีอยุธยาด้วย มาระยะหลังผู้เสียหายเริ่มสงสัยว่าทรัพย์สินมีค่าในบ้านสูญหายไปหลายรายการ จึงไปตรวจสอบตามโรงรับจำนำต่างๆ ก็พบว่า น.ส.กวีณาเป็นผู้นำทองคำมาจำนำไว้ที่โรงรับจำนำหลายแห่งทั้งในจ.พระนครศรีอยุธยา และกรุงเทพฯ ความเสียหายประมาณ 600,000 บาท จึงเข้าแจ้งความดำเนินคดี ส่วนตัวผู้ต้องก็รีบหลบหนีไป
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่า ผู้ต้องหานั้นหลบหนีมาอาศัยอยู่ภายในซอยหทัยราษฎร์ 39 แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา ก่อนจะเข้าจับจับกุมได้ดังกล่าว สอบสวน น.ส.กวีณา ให้การยอมรับสารภาพว่า ก่อเหตุลักทองคำในบ้านของแฟนหนุ่มไปจริง เพราะตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิด-19 ตั้งแต่ปลายปี 2563 ตนตกงานจึงไปขออาศัยอยู่ที่บ้านแฟน ระหว่างนี้ก็คอยช่วยงานในบ้าน ดูแลผู้สูงอายุ จนทำให้ทุกคนในบ้านรักและไว้วางใจ มาระยะหลังตนหันไปเล่นพนันหวยออนไลน์จนติดอย่างหนัก ก่อนจะเห็นว่าทรัพย์สินของมีค่าที่ถูกวางไว้ในห้องต่างๆเป็นจำนวนมาก จึงแอบหยิบเอาทองรูปพรรณจำนวนหลายเส้นไปจำนำ เพื่อนำเงินไปเล่นพนันต่อ หวังว่าหากได้เงินมาจะไปไถ่ถอนทองคืนมา แต่ไม่ทันเพราะผู้เสียหายมาทราบเรื่องก่อน
น.ส.กวีณา ให้การต่อว่า ก่อนที่ผู้เสียหายจะทราบว่าทองในบ้านถูกขโมย ตนก็อ้างว่าจะกลับมาอยู่ที่บ้าน แต่ผู้เสียหาโทรมาบอกให้ไปพบตำรวจที่สภ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อมอบตัวและดำเนินคดี หลังจากให้ปากคำเสร็จแล้ว ตำรวจ
ก็นัดให้ไปพบพนักงานอัยการ แต่ตนไม่ได้ไปและไม่ได้มีเจตนาจะหลบหนี เพียงแต่อยู่ระหว่างหาเงินมาชดใช้ผู้เสียหายเท่านั้น จึงแจ้งข้อกล่าวหานำตัวส่งสภ.พระนครศรีอยุธยา ดำเนินคดีต่อไป
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews