จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ผู้ประกาศข่าวอย่าง "สรยุทธ สุทัศนะจินดา" นั้นก็ได้โพสต์ชี้แจงสาเหตุการเสียชีวิต "คุณแม่คำผัน" ของ "เมย์ รัชนก" ว่า "แม่คำผัน เสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน สาเหตุจากอาการหลอดเลือดหัวใจตีบ ครับ แสดงความเสียใจอีกครั้ง และเป็นกำลังใจให้นะครับ โค้ชเป้-ภัททพล เงินศรีสุข ผู้อำนวยการโรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด เปิดเผยว่า จากผลชันสูตร ออกมาแล้วว่า คุณแม่คำผันเสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน สาเหตุเนื่องจากมีอาการหลอดเลือดหัวใจตีบ ซึ่งเป็นเรื่องเศร้าที่ไม่ใครคาดคิดว่าจะเกิด “ส่วนเมย์เองก็เสียใจมาก เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นแบบไม่คาดคิด แต่เมย์เองก็ได้บอกกับพ่อและน้องชายว่า เมย์ก็ยังพร้อมจะสู้ต่อเพื่อแม่ เพราะที่ผ่านมาแม่ก็คอยให้กำลังใจเมย์ทุกการแข่งขันเสมอ ส่วนหลังจากนี้จะเก็บศพแม่เอาไว้ก่อน เพื่อรอเวลาที่เหมาะสม จึงจะมีพิธีฌาปนกิจต่อไป"
ในขณะที่ “เมย์ รัชนก” นั้นก็ได้โพสต์ตัดพ้อ หลังรู้ผลการเสียชีวิต “คุณแม่คำผัน” โดยงานนี้ เมย์ รัชนก นั้นก็ได้โพสต์อินสตราเเกรมระบุข้อความว่า "ขอบคุณทุกกำลังใจและข้อความมากเลยนะคะสำหรับวันนี้ เมย์ไม่รู้จะพูดอะไรเหมือนกัน พูดไม่ออก มืดหมด 8 ด้าน.. ขอบคุณทุกอย่างที่แม่ให้เมย์มาเสมอ ขอบคุณที่คอยอยู่เคียงข้างเมย์และฟังทุกอย่างเกี่ยวกับเมย์ที่เมย์ไม่รู้จะคุยกับใครมาเสมอ.. แม่เข้มแข็งจนเมย์ไม่รู้ว่าภายใต้ความสู้ของแม่ทำให้เมย์ไม่ได้ทันตั้งตัวที่จะเจอ ไปไม่ลากันเลยสักคำนะแม่ แม่อาจจะไม่อยากบอกว่าที่จริงแล้วแม่ไม่ไหวแต่แม่เก็บทุกอย่างเองทั้งหมด วันนี้แม่หลับสบายแล้วนะ แม่คอยดูความสำเร็จของเมย์เลยนะ จะทำให้แม่ให้ได้ ไม่ว่าจะหนักหนาขนาดไหนก็ตาม #แม่จะอยู่ในใจลูกเมย์แสนดื้อคนนี้เสมอ #แม่ที่เข้มแข็งสุดใจมากจริงๆ"
เเละล่าสุด ผู้ดูแล “เมย์ รัชนก” เผย “คุณแม่คำผัน” ป่วยหลังฉีดวัคซีนโควิด-19 ก่อนจากไปกะทันหัน โดยงานนี้ ทางครอบครัว เมย์ รัชนก" ได้มีการนำศพของคุณแม่ ไปฝากไว้ที่วัดเทพศิรินทร์ เพื่อรอให้ คุณพ่อของน้องเมย์ หายป่วยจากการติดเชื้อโควิด-19 ก่อน
ในขณะที่ "นางกมลา ทองกร" ผู้อำนวยการโรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอดในฐานะ ผู้ดูแล "สาวเมย์ รัชนก" ได้เปิดเผยว่า "ปกติแม่คำผันปกติแข็งแรงมาก ไม่เคยเจ็บ ไม่เคยป่วยเลย แต่หลังจากไปฉีดวัคซีนเข็มแรกแอสตร้าเซนเนก้า เมื่อประมาณปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาก็เริ่มมีอาการป่วยมาตลอด โดยจะมีอาการหนาวๆ ร้อนๆ ประจำเดือนก็ผิดปกติ และมักจะบ่นว่าไม่มีแรง ซึ่งตัวแม่คำผันรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับร่างกายของเขา กระทั่งวันที่ 29-30 กรกฎาคม แม่คำผันเริ่มป่วยหนักไม่ได้มาทำงานแล้ว"
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews