จากกรณีมีการเผยแพร่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.เมืองนครสวรรค์ เมื่อวันที่ 5 ส.ค.2564 ที่ผ่านมา ตำรวจชุดดังกล่าว ได้จับผู้ต้องหาคดียาเสพติด 2 คนเป็นชายและหญิง นำมาที่โรงพัก และมีการเรียกเงินผู้ต้องหา จนผู้ต้องหาชายยอมจ่าย 1 ล้านบาท แต่ ผกก.ไม่ยอม จะเอา 2 ล้านบาท จากนั้น ผกก.ได้เอาถุงดำมาคลุมหัวผู้ต้องหาชายจนขาดอากาศหายใจและเสียชีวิตในที่สุด โดยบังคับลูกน้องว่าให้บอกกับหมอว่าเสพยาเกินขนาดตาย หลังจากนั้นปล่อยตัวผู้ต้องหาหญิงไป โดยบอกว่าไม่ต้องพูดอะไรเพื่อแลกกับอิสรภาพ
สำหรับความคืบหน้ากรณีดังกล่าวนั้น ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ(จตช.) เปิดเผยจากกรณีเพจทนายคลายทุกข์ เผยแพร่ข้อมูลร้องเรียนจากตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ ระบุว่า มีการจับกุม 2 ผู้ต้องหาคดียาเสพติด เป็นชาย 1 ราย หญิง 1 ราย จากนั้นมีการเรียกเก็บเงินจากผู้ต้องหา 1 ล้านบาท โดยผู้ต้องหาก็ยอมจ่าย แต่มีข้อมูลระบุว่า ตำรวจยศ พ.ต.อ. ไม่ยอม จะเอา 2 ล้านบาท จากนั้นเอาถุงดำมาคลุมหัวผู้ต้องหาชายจนขาดอากาศ และต่อมาเสียชีวิต โดยบังคับลูกน้องว่าให้แจ้งกับหมอว่าสาเหตุเกิดจากเสพยาเกินขนาด หลังจากนั้นปล่อยตัวผู้ต้องหาหญิงไป โดยบอกว่าไม่ต้องพูดอะไรเพื่อแลกกับอิสรภาพ นอกจากนี้ พ.ต.อ. รายดังกล่าว ยังไปเคลียร์กับพ่อผู้เสียชีวิต เพื่อให้จบคดี ทำให้ตำรวจใน สภ.เมืองนครสวรรค์ ทนไม่ได้ ส่งข้อมูลร้องเรียนไปทางสื่อต่างๆ นั้น ว่า เรื่องดังกล่าว พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร) สั่งการให้เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะหากเป็นความจริง ถือเป็นการกระทำที่สร้างความเสียหายต่อประชาชนและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)อย่างรุนแรง
โดย พล.ต.อ.วิสนุ สั่งการให้ พล.ต.ท.เชษฐา โกมลวรรธนะ จตร. จัดทีมลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว และวันนี้( 22 สิงหาคม ) ทาง พล.ต.ท.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ ผบช.ภ.6 มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ไปปฏิบัติราชการที่ ศปก.ภ.6 โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม เพื่อไม่เป็นอุปสรรคต่อการตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่ โดย พล.ต.อ.วิสนุ กำชับทีมตรวจสอบของจเรตำรวจ ให้เร่งดำเนินการพิสูจน์ข้อเท็จจริง โดยจะให้ความเป็นธรรมทั้งผู้เสียหายและผู้ถูกกล่าวหาอย่างตรงไปตรงมา ตามพยานหลักฐานทั้งหมด
พล.ต.อ.วิสนุ กล่าวว่า ทั้งนี้กำชับ พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ ให้ร่วมตรวจสอบและสนับสนุนข้อมูลเพื่อให้ปรากฏความจริงร่วมกับทางจเรตำรวจอีกส่วนหนึ่ง เพื่อรายงาน ผบ.ตร ต่อไป หากพบว่ากระทำผิดจริง ผู้กระทำผิด ก็ต้องถูกดำเนินการทางวินัยและถูกดำเนินคดีอาญาตามกฏหมายต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก โปลิศไทยแลนด์ - Police Thailand News
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews