จากกรณีคดีฉาวผกก.โจ้ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล และลูกน้องรวม 7 นาย ก่อเหตุใช้ถุงคลุมหัวรีดเงิน2ล้านจากผู้ต้องหาจนเสียชีวิตโดยเหตุที่สภ.นครสวรรค์ จนกระทั่งต่อมาพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ลงนามในคำสั่งให้ ผกก.โจ้ ออกจากราชการเเล้ว เเละได้ตั้งกรรมการสอบสวนหรือต้องหาว่ากระทำความผิดอาญาในเรื่องเกี่ยวกับการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ พร้อมมีการออกหมายจับ ผกก.โจ้ พร้อมพวกรวม 7 คน ขณะนี้สามารถจับกุมได้แล้ว 4 ราย ส่วนผกก.โจ้ ยังคงหลบหนี
ต่อมาเกิดเป็นประเด็นดราม่าขึ้นเมื่อมีการเผยหนังสือรับรองการเสียชีวิตของผู้ต้องหาระบุสันนิษฐานว่าพิษจากสารแอมเฟตามีน ผู้เสียชีวิต อายุ 24 ปี ได้รับการส่งตัวมาจากโรงพยาบาลปริ้นส์ปากน้ำโพ เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2564 เวลา 19.20 นาฬิกา และเสียชีวิตลงในวันที่ 6 สิงหาคม 2564 เวลา 13.20 นาฬิกา โดยทราบประวัติจาก โรงพยาบาลปริ้นส์ปากน้ำโพว่า ผู้เสียชีวิตวิ่งหนีตำรวจขณะจับยาเสพติดแล้วล้มลงหมดสติ ผู้ป่วยไม่รู้สึกตัวขณะอยู่ในโรงพยาบาล
หลังเสียชีวิตแล้วได้ทำการชันสูตรพลิกศพที่กลุ่มงานนิติเวช โดยแพทย์นิติเวช และทำการผ่าศพ วันที่ 7 สิงหาคม 2564 เวลา 09.00 นาฬิกา เนื่องจากต้องรอผลตรวจโควิดของผู้ตาย การตรวจคัดกรอง ปัสสาวะพบสารเมทแอมเฟตามีน และสารแอมเฟตามีน โดยลงสาเหตุการตายเบื้องต้นในหนังสือรับรองการตายว่า สันนิษฐานว่าพิษจากสารแอมเฟตามีน ขณะนี้กำลังรอผลตรวจระดับสารเมทแอมเฟตามีน ในเลือดและผลการชันสูตรพลิกศพ เพื่อนำมาสรุปในรายงานชันสูตรฉบับสมบูรณ์ ที่จะออกในสัปดาห์หน้า
หนังสือรับรองการตายที่แพทย์ออกให้ หลังการผ่าพิสูจน์ทันที เพื่อให้ญาติไปทำมรณบัตร เป็นเพียงข้อมูลขั้นต้น ที่อาจจะเหมือนหรือแตกต่างจากรายงานการชันสูตรพลิกศพที่มีในภายหลังได้ เพราะผลตรวจ ชิ้นเนื้อจากกล้องจุลทรรศน์ และผลตรวจทางห้องปฏิบัติพิษวิทยา ที่ออกมาในภายหลัง จะทำให้สรุปสาเหตุการเสียชีวิตได้ถูกต้องแม่นยำมากขึ้นขณะนี้ทางโรงพยาบาลฯ กำลังดำเนินการรวบรวมข้อมูล ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์รักษาพยาบาลและตรวจศพทั้งหมด เมื่อมีความคืบหน้าประการใดจะแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป
ล่าสุดทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ได้เผยแพร่ภาพจากไอจีสตอรี่ของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลท่านหนึ่งที่มีคนส่งมาให้ดู พร้อมข้อความว่า "มีคนส่งสตอรี่ในไอจีของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลท่านหนึ่งมาให้ เจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลก็น่าเห็นใจ แต่ผมเห็นใจผู้ตายมากกว่า"
โดยในสตอรี่ของเจ้าหน้าที่เขียนไว้ว่า "เคสนี้เป็นเคสที่มา admit ที่วอร์ดเวรบ่าย Refer จากโรงพยาบาลปากน้ำโพด้วย Post arrest ตำรวจนำส่งให้ข้อมูลว่าคนร้ายวิ่งหนีตำรวจแล้ววูบไป แต่สภาพที่มาคือ เลือดออก ในร่างกาย suction มีแต่ก้อนเลือด ยังคุยกันอยู่ว่าเหมือนโดนทำร้ายมา dead เวรดึก ตรวจพบสารเสพติดในปัสสาวะ ถามอะไรตำรวจก็บอกไม่รู้ๆ พอคลิปมาแล้วสงสารคนไข้เลย"
ด้านทนายตั้มเขียนต่อในคอมเมนต์ว่า "ก็ต้องย้อนกลับไปถามเชิงโครงสร้างนะครับ ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ที่ตำรวจมีอำนาจในการสั่งหรือชี้นำให้หมอเขียนสาเหตุการตายได้ และเท่าที่ทราบมา คือศพของผู้ตายได้ถูกเผาไปแล้ว พอเกิดข้อสงสัยทำไงต่อ หวังว่าจะไม่ชันสูตรทิพย์นะครับ"
ขอบคุณ ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews