ใบเตย พรพจี ตัดสินใจลบรูป ผู้กำกับโจ้และ คุณพ่อบิ๊กตำรวจ ทิ้งทันที

26 สิงหาคม 2564

"ใบเตย พรพจี" ตัดสินใจลบรูป "ผู้กำกับโจ้”และ "คุณพ่อบิ๊กตำรวจ" ทิ้งทันที หลังกลายเป็นข่าวฉาวลามทั้งตระกูล!

จากกรณีข่าวดังร้อนไปทั่วโลกออนไลน์สำหรับกรณีข่าวของ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล ผกก.สภ. เมืองนครสวรรค์ หรือ ผู้กำกับโจ้ ที่มีคลิปหลุดออกว่อนโลกโซเชียล ในลักษณะที่คล้ายว่ากลุ่มตำรวจหลายนาย ช่วยกันทำร้ายผู้ต้องหาคดียาเสพติด โดยการใช้ถุงคลุมหัวหลายชั้น จนทำให้ผู้ต้องหาขาดอากาศหายใจกระทั่งเสียชีวิตในที่สุด  แต่ผลชันสูตรกลับออกมาว่าผู้ต้องหารายดังกล่าวเสพยาเกินขนาดจนเสียชีวิต

 

ใบเตย พรพจี ลบรูป ผกก.โจ้

 

 

อีกทั้งยังมีเงื่อนงำอีกเพียบ เนื่องจากพ่อของผู้เสียชีวิตกลับมาสงสัยติดใจเอาความเรื่องการตายของลูกชายเลยแม้แต่น้อย โดยมีแหล่งข่าวจากวงในบอกว่าอาจมีการให้เงินกันสูงถึง 5 ล้าน เพื่อแลกกับการทำให้เรื่องดังกล่าวเงียบ ซึ่งขณะนี้ทางด้าน ผู้กำกับโจ้ ได้หนีหายเข้ากลีบเมฆไปแล้ว หลังโดนออกหมายจับ ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวทั้งหมดเกิดจากที่ตำรวจชั้นผู้น้อยได้ส่งมอบคลิปให้กับ ทนายตั้ม เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม

 

ใบเตย พรพจี ลบรูป ผกก.โจ้

 

ซึ่งปัจจุบันทางด้าน ผู้กำกับโจ้ นั้นกำลังคบหาดูใจอยู่กับ ใบเตย พรพจี ทำหน้าที่เป็นพิธีกรรายการ วันบันเทิง โดย สาวใบเตย นั้นมีดีกรีไม่ธรรมดาเป็นถึงลูกสาวของ พล.ต.ท.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 และเป็นคนเซ็นคำสั่งย้าย ผู้กำกับโจ้ หลังเกิดเรื่องฉาว  และด้วยเหตุก็ทำให้หลายๆคนคิดว่าเรื่องรางราวดังกล่าวที่เกิดขึ้นอาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากมีแต่คนใหญ่คนโตทั้งนั้น

 

ใบเตย พรพจี ลบรูป ผกก.โจ้

 

และหากใครที่ติดตามอินสตาแกรมของ สาวใบเตย จะเห็นว่า ผู้กำกับโจ้ มีความสนิทสนมกับครอบครัวของ สาวใบเตย มากๆ มีภาพร่วมเฟรมกับคุณพ่อและคุณแม่อยู่บ่อยๆ ไปออกงานสังคมร่วมกันอยู่หลายครั้ง

 

ใบเตย พรพจี ลบรูป ผกก.โจ้

 

แต่ทว่าล่าสุดจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นได้มีชาวเน็ตเข้ามาทัวร์ลงที่ สาวใบเตย กันอย่างมากมายเลยทีเดียว โดยงานนี้ทางด้าน สาวใบเตย เลยได้ตัดสินใจจบปัญหาด้วยการลบภาพ ผู้กำกับโจ้ และครอบครัวออกไปจากอินสตาแกรม ซึ่งก็ได้มีชาวเน็ตเข้ามาถามเอาไว้ว่า รูปที่มีถ่ายรวมครอบครัว กะ ผกกโจ้ โดนลบออกไปแล้ว

 

ใบเตย พรพจี ลบรูป ผกก.โจ้

 

ใบเตย พรพจี ลบรูป ผกก.โจ้

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews