สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ที่ผ่านมา รัฐบาลจังหวัดโอกินาวะของญี่ปุ่นมีคำสั่งเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2564 ระงับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อโควิด-19 (COVID-19) ในสถานที่ฉีดวัคซีนโควิดขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง หลังพบสารปนเปื้อนในวัคซีน โมเดอร์นา "Moderna" อีกลอต โดยก่อนหน้านี้ ญี่ปุ่นตรวจพบสารปนเปื้อนในวัคซีนของโมเดอร์นาและสั่งระงับการใช้งานวัคซีนลอตดังกล่าวแล้ว
จังหวัดโอกินาวะพบสารสีดำและสีชมพู ในขวดวัคซีน 1 ขวด และหลอดฉีดยา 3 หลอด ระหว่างทำการตรวจสอบก่อนฉีดวัคซีน โดยตอนนั้นมีประชาชนกว่า 1,500 คน ที่กำลังรอรับวัคซีนอยู่ที่สถานที่ฉีดแห่งนี้ ซึ่งอยู่ในเมืองนาฮะ เมื่อบ่ายวันที่ 28 สิงหาคม 2564 รัฐบาลจังหวัด ระบุว่า หลอดฉีดยา 3 หลอดข้างต้นบรรจุวัคซีน "Moderna" ที่มาจากคนละขวดกัน จำนวน 3 ขวด ซึ่ง 3 ขวดนี้ไม่ใช่ขวดวัคซีนที่พบว่ามีสารปนเปื้อน จึงหมายความว่า อาจมีวัคซีนปนเปื้อนอยู่ 4 ขวด โดยทั้งหมดนี้ล้วนเป็นวัคซีนลอตที่ 3005293 ซึ่งหมายเลขนี้เป็นคนละลอตกันกับอีก 3 ลอตที่กระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่นระบุว่าอาจมีสารปนเปื้อนไปเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2564 มีประชาชนที่ได้รับวัคซีนลอตข้างต้นราว 880 คน แต่รัฐบาลท้องถิ่น ระบุว่า จนถึงปัจจุบันยังคงไม่ได้รับรายงานปัญหาทางสุขภาพแต่อย่างใด เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2564 กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่น รายงานการตรวจพบสารแปลกปลอมในขวดวัคซีนที่ยังไม่ได้เปิดใช้ 39 ขวด จากจุดฉีดวัคซีน 8 แห่งใน 5 จังหวัด พร้อมสั่งระงับการใช้งานวัคซีนราว 1.63 ล้านโดส ที่มาจากสายการผลิตเดียวกันในโรงงานของสเปน เพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน
อนึ่ง ปัญหานี้เกิดขึ้นขณะที่ยอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในญี่ปุ่นพุ่งสูง โดยปัจจุบันจังหวัดโอกินาวะและอีก 20 จังหวัดจากทั้งหมด 47 จังหวัด ล้วนอยู่ภายใต้ภาวะฉุกเฉิน ด้านรัฐบาลโอกินาวะระบุว่าสถานที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ขนานใหญ่นั้นมีกำหนดกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งโดยใช้วัคซีนที่ปลอดภัยในวันนี้ (30 สิงหาคม 2564)
ข้อมูลจาก China Xinhua News