ศรีสุวรรณ โพสต์เดือด เรียก 2พส. พวกอลัชชีไลฟ์สดเอาธรรมะมาเล่นตลก

05 กันยายน 2564

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นกรณี พระมหาไพรวัลย์ และ พระมหาสมปอง ออกมา Live ผ่านเฟซบุ๊ก มีทีวีช่องดังนั้นได้ติดต่อตัวเองไปออกรายการโต้กับพวกอลัชชีที่ไลฟ์สดเอาธรรมมะมาทำตลกเมื่อเร็วๆนี้

เรียกว่าเป็นปรากฎการณ์ในโลกออนไลน์ ที่ต้องบอกว่ามีทั้งคำวิจารณ์และก็ชื่นชม หลังจากที่  "พระมหาไพรวัลย์" และ "พระมหาสมปอง" ออกมา Live ผ่านเฟซบุ๊ก ทำให้มีคนเข้ารับชมมากกว่า 2 แสนคน กลายเป็นกระแสดัง จนทำให้เกิดเป็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปมากมายถึงประเด็นที่ออกมาไลฟ์สดเทศนา

 

"ศรีสุวรรณ" โพสต์เดือด

ซึ่งในเวลาต่อมานั้น นายสิปป์บวร แก้วงาม รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และโฆษก พศ. เปิดเผยกรณีพระมหาไพรวัลย์และพระมหาสมปอง ถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊ก มีผู้รับชมพร้อมกันสูงถึงกว่า 2 แสนคน ซึ่งมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในแง่มุมต่างๆ ว่า การพิจารณาถึงความเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมนั้น จะเป็นหน้าที่ของเจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ หรือเจ้าอาวาส ที่เป็นผู้บังคับบัญชาขั้นต้นของพระทั้ง 2 รูป

นายสิปป์บวร กล่าวต่อว่า แม้หลายคนจะเห็นว่าการแสดงธรรมเช่นนี้เป็นวิธีการใหม่ รูปแบบใหม่ เป็นนวัตกรรมหนึ่งในการเผยแผ่หลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนาออกสู่สังคม ตนมองว่าการเผยแผ่พระพุทธศาสนาถือเป็นเรื่องดีอยู่แล้ว เพราะสังคมเราต้องการให้พระนำหลักธรรมคำสอนสู่สังคม เพื่อให้ทุกคนมีหลักธรรมประจำใจในการดำรงชีวิต ไม่ให้เกิดความผิดพลาดและสร้างความเดือนร้อนต่อสังคม แต่สิ่งสำคัญในความเป็นพระภิกษุสงฆ์คือ ความสำรวมในความเป็นสงฆ์ ซึ่งตนเชื่อว่าประชาชนสามารถพิจารณาได้เองว่าพระทั้ง 2 รูป ที่เผยแผ่พุทธศาสนาผ่านไลฟ์นั้น มีความเหมาะสมหรือไม่

“โดยส่วนตัวจะไม่ไปวิเคราะห์แทนพี่น้องประชาชน เพราะเชื่อว่าประชาชนมีองค์ความรู้ มีความคิดเป็นของตนเอง สามารถวินิจฉัย พินิจพิเคราะห์ได้เองว่า การแสดงลักษณะนี้อยู่ในความสำรวมของสงฆ์หรือไม่”

โดยสืบเนื่องจากกรณีดังกล่าวนั้น นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงเรื่องดังกล่าวอย่างดุเดือด โดยเจ้าตัวนั้นได้อ้างว่า มีทีวีช่องดังนั้นได้ติดต่อตัวเองไปออกรายการโต้กับพวกอลัชชีที่ไลฟ์สดเอาธรรมมะมาทำตลกเมื่อเร็วๆนี้ ผมปฎิเสธรับไม่ได้กับคนจำพวกนี้ 

 

"ศรีสุวรรณ" โพสต์เดือด

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews