กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป., พ.ต.อ.มีชัยกำเนิดพรม, พ.ต.อ.มนตรี เทศขัน, พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., ว่าที่ พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์, พ.ต.ท.พงศกร ตันอารีย์, พ.ต.ท.สุรเชษฐ์ เดชะพันธ์ รอง ผกก.3 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.เอนก บุญตา สว.กก.3 บก.ป., ร.ต.อ.ชุมพร เพ็ชรเลิศ รอง สว.กก.3 บก.ป., ร.ต.อ.วิรัช เกิดผล รอง สว.(ป) กก.3 บก.ป., ด.ต.วิกรานต์ แก้วพิทูล, ด.ต.ปรีชา บุญยัง, ด.ต.ชลอ วัฒน์สืบแถว, ด.ต.สุริยา โพธิศรี, ส.ต.อ.อนุรักษ์ แสนราช, ส.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ บุราณะผาย ผบ.หมู่ กก.3 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม พระฐิตุเมโธ หรือนายนที (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดี “ฉ้อโกง” ยังต้องการตัว 5 หมายจับ
1. หมายจับศาลจังหวัดพิจิตร ที่ จ.6/2561 ลง 23 ม.ค.61 คดีอาญาที่ 7/2561
2. หมายจับศาลจังหวัดพิจิตร ที่ จ.7/2561 ลง 23 ม.ค.61 คดีอาญาที่ 8/2561
3. หมายจับศาลจังหวัดพิจิตร ที่ จ.8/2561 ลง 23 ม.ค.61 คดีอาญาที่ 9/2561
4. หมายจับศาลจังหวัดพิจิตร ที่ จ.9/2561 ลง 23 ม.ค.61 คดีอาญาที่ 10/2561
5. หมายจับศาลจังหวัดพิจิตร ที่ จ.10/2561 ลง 23 ม.ค.61 คดีอาญาที่ 11/2561
สถานที่จับกุม บริเวณภายในวัดแห่งหนึ่ง ม.3 ต.ท่าเยี่ยม อ.โชคชัย จว.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 6 ก.ย.64
พฤติการณ์ สืบเนื่องมาจากเมื่อประมาณปลายปี 2560 นายนทีฯ (ผู้ต้องหา) ได้อ้างตนเป็นพระสงฆ์ มีอาคม รับทำพิธีสะเดาะเคราะห์ ดูดวงให้กับประชาชน ในพื้นที่ อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ จนมีผู้นิมนต์ให้ไปทำพิธีสะเดาะเคราะห์ต่อชะตาในพื้นที่ อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร โดยในพิธีดังกล่าวมีชาวบ้านเข้ามาร่วมพิธีหลายสิบคนเนื่องจากเข้าใจว่าผู้ต้องหาเป็นพระดัง ซึ่งเมื่อทำพิธีสะเดาะเคราะห์ ผู้ต้องหาได้ออกอุบายดูดวงพร้อมกับหลอกให้ชาวบ้านนำเอาของมีค่ามาใส่ไว้ในบาตร และทำพิธีกรรมร่ายมนต์คาถาห่อผ้าขาว เรียกทรัพย์ต่อเงินต่อทองอ้างว่าหากใส่ทอง 5 บาท จะได้คืนเป็น 10 เท่า 1000 เท่า ชาวบ้านจึงนำเงินสด และสร้อยแหวนเงินทองมาใส่ไว้แต่ผู้ต้องหากลับออกอุบายกับชาวอีกว่า ต้องห่อผ้าไว้ 7 วันถึงจะเปิดได้ แต่เมื่อครบกำหนด 7 วัน ผู้ต้องหากลับไม่นำของมาคืนให้กับชาวบ้าน ทางชาวบ้านจึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่สภ.วังทรายพูน จ.พิจิตร
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.3 บก.ป. ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีการการจับกุมไปจำวัดในหลายจังหวัด กระทั่งปี 2561 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำสืบสวนจนทราบว่าผู้ต้องหาได้มาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา
พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป. จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป. เร่งติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติกรรมทำให้ศาสนาเสื่อมเสีย อาศัยความศรัทธาของพี่น้องประชาชนมาหลอกลวงเอาทรัพย์สินไป เป็นภัยต่อสังคม
กระทั่งวันที่ 6 ก.ย.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป. สืบทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีมาจำวัดอยู่ในพื้นที่ ต.ท่าเยี่ยม อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำกำลังตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 ลงพื้นที่สืบสวนตรวจสอบจนพบตัวผู้ต้องหานั่งอยู่บริเวณหน้ากุฏิวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.3 ต.ท่าเยี่ยม อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา จึงเข้าทำการจับกุม และพาไปทำการลาสิกขา ก่อนนำตัวส่ง พงส. สภ.วังทรายพูน จ.พิจิตร ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถามผู้ต้องหา ไม่ขอให้การในชั้นจับกุม
ทรัพย์สินของผู้เสียหายที่ถูกฉ้อโกง
1. สร้อยคำทองคำ ลายลูกโซ่ น้ำหนัก 6 บาท ราคา 120,000 บาท
2. สร้อยคำทองคำ ลายลูกโซ่ น้ำหนัก 2 บาท ราคา 40,000 บาท
3. สร้อยคำทองคำ ลายลูกโซ่ น้ำหนัก 2 สลึง ราคา 10,000 บาท
4. สร้อยข้อมือเลสทองคำ น้ำนัก 4 บาท ราคา 80,000 บาท
5. พระรูปหล่อหลวงพ่อคูณเหลี่ยมทอง น้ำหนัก 2 สลึง ราคา 10,000 บาท
6. สร้อยคำทองคำ ลายคตกิตทับลาย น้ำหนัก 2 สลึง จำนวน 2 เส้น ราคา 20,000 บาท
7. สร้อยคำทองคำ ลายลูกโซ่ น้ำหนัก 2 สลึง ราคา 10,000 บาท และ
8. สร้อยคำทองคำ น้ำหนัก 2 สลึง ราคา 10,000 บาท
9. สร้อยคำทองคำ น้ำหนัก 1 บาท ราคา 20,000 บาท
10. สร้อยคำทองคำ ลายผ่าหวาย น้ำหนัก 2 สลึง ราคา 10,000 บาท
11. สร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนัก 2 บาท จำนวน 2 เส้น ราคา 40,000 บาท
12. แหวนทองคำ น้ำหนัก 2 สลึง ราคา 10,000 บาท
ข้อมูลจาก กองปราบปราม
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews