อัจฉริยะพาเสี่ยเต็นท์รถร้อง ถูกดีเอสไอยึดรถหรู 37 คัน พฤติกรรมคล้าย ผกก.โจ้

09 กันยายน 2564

อัจฉริยะพาเสี่ยเต็นท์รถร้อง บก.ปปป. ถูกดีเอสไอยึดรถหรู 37 คัน พฤติกรรมเหมือนผกก.โจ้ เผยเตรียมกางหลักฐานเด็ดรอติดตามซีซั่นต่อไปได้เลย

วันที่ 9 ก.ย. ที่บก.ปปป. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำนายมนตรี เกตุจรัส ผู้ประกอบกิจการรถยนต์จดประกอบ เข้าร้องพนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. เพื่อให้สืบสวนขยายผล กรณีที่นายมนตรี ถูกเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ บุกค้น และอายัดรถหรูไป 37 คัน เมื่อ 9 ปีที่แล้ว ก่อนจะคืนรถยนต์ของกลางบางส่วนกลับมาเพียง 8 คัน และจนถึงขณะนี้ทางดีเอสไอ ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา

 

นายอัจฉริยะ กล่าวว่ากรณีของ ดีเอสไอ มีลักษณะคล้ายเครือข่ายของพ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีตผู้กำกับโจ้  โดยมีจุดเริ่มต้น มาจากคดีที่ ดีเอสไอรับผิดชอบสอบสวนเรื่องรถยนต์หรู และพบว่ามีไฟไหม้รถยนต์หรู จำนวน 6 คัน ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา  

 

ร้องเรียนดีเอสไอ

 

จากนั้น ดีเอสไอ ตั้งเรื่องเป็นคดีพิเศษเพื่อขยายผลตรวจสอบรถยนต์หรูทั่วประเทศ โดยใช้งบประมาณทำคดีมากถึง 1,400 ล้านบาท หรือ ตกคดีละ 2 แสนบาท ซึ่งพฤติการณ์ของดีเอสไอ คล้ายกับกรณีของพ.ต.อ.ธิติสรรค์ คือ มีการดำเนินการเพื่อหวังเงินรางวัลนำจับที่สูงถึง ร้อยละ 55 โดยแอบอ้างปั้นสายลับ เป็นผู้ให้ข้อมูลนำจับ เพื่อให้เข้าเงื่อนไข ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร มารตรา 27 ที่ระบุว่า ต้องเป็นการนำเข้ารถมาทั้งคัน ไม่ใช่การแยกชิ้นมาประกอบ แต่กรณีของดีเอสไอ ไม่เข้าเงื่อนไข เพราะคดีของดีเอสไอ จับผู้นำเข้าชิ้นส่วนที่มีการเสียภาษีเรียบร้อยแล้ว และมาจดประกอบรถยนต์  โดยเฉพาะ นายมนตรี เสียภาษีถูกต้องตามขั้นตอนทั้งหมด จึงไม่เข้าเงื่อนไข

 

ร้องเรียนดีเอสไอ

ดังนั้น จึงมีความพยายาม ตั้งงบการดำเนินคดี คันละ 2 แสนบาท รวมทั้ง 7,000 คัน เป็นเงินกว่า 1,400 ล้านบาท และมีการขยายผลตรวจค้นโรงงานจดประกอบรถหรูทั่วประเทศ จำนวน 6 จุด ซึ่งรวมถึงโรงงานของนายมนตรีด้วย ซึ่งจนถึง ขณะนี้ผู้เสียหายทั้งหมด ที่โดนยึดรถยนต์หรูไว้ ยังไม่ได้รถคืน และดีเอสไอ ไม่สามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้  

 

ร้องเรียนดีเอสไอ


  
ขณะที่ นายมนตรี  กล่าวว่า ตนเสียภาษีชิ้นส่วนนำเข้าอย่างถูกต้อง ส่วนเรื่องการนำเข้าขิ้นส่วนอะไหล่ ก็มีการเสียภาษี​ถูกต้องเช่นกัน  แต่เมื่อดีเอสไอ เข้ามาอายัดและอ้างว่า ไม่มีการเสียภาษีชิ้นส่วนถูกต้อง จึงไม่เป็นความจริง และมีหลักฐานเอกสารการจ่ายภาษีครบทุกขั้นตอน  โดยที่ผ่านมา เคยชี้แจงไปที่ ดีเอสไอ แต่ไม่คืบหน้า แต่ดีเอสไอ คืนรถยนต์กลับมาให้จำนวน 9 คัน และ ดีเอสไอ อายัดไว้อีก 28 คัน จึงนำเรื่องมาร้องทุกข์ผ่านทางบก.ปปป.เพื่อขอความเป็นธรรม

 

อัจฉริยะ

 

เบื้องต้นพนักงานสอบสวน ปปป. รับเรื่องราวไว้สอบสวน โดยเตรียมเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมในภายหลัง

 

อัจฉริยะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews