อย่างที่ทราบกันดีว่าช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่โรคโควิด 19 นั้นระบาดได้ง่ายดาย ทำผู้คนติดเชื้อได้ไม่ยาก ดังนั้นธุรกกรม หรือ กิจกรรมออนไลน์จึงดูเหมือนจะเป็นที่ปลอดภัยมากที่สุดในช่วงเวลานี้ ทั้งการจับจ่ายใช้สอย ช็อปปิ้งออนไลน์ รวมไปถึงทางรัฐบาลเองก็ใช้การทำธุรกรรมหรือการช่วยเหลือทางออนไลน์มาประยุกต์ใช้เช่นกัน
จึงทำให้ทางภาครัฐมีบริการออนไลน์ออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุด น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงความคืบหน้าขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาภาครัฐสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล เพื่อพัฒนาระบบการบริการประชาชนให้ดีขึ้น การทำงานโปร่งใสตรวจสอบได้ ลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน ลดขั้นตอนที่ยุ่งยากเกินความจำเป็น ซึ่งมีรายละเอียดว่า
สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ สพร. และหน่วยงานรัฐ อาทิ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) กรมการปกครอง สำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด และสำนักงานประกันสังคม ได้ร่วมกันพัฒนาแพลตฟอร์มกลาง ชื่อ แอปฯทางรัฐ
โดยจะเป็นการรวบรวมงานบริการภาครัฐ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการติดต่อขอรับบริการผ่านช่องทางออนไลน์ ให้ประชาชนเข้าถึงบริการภาครัฐจากทุกที่ทุกเวลา ผ่านสมาร์ทโฟน โดยดาวน์โหลดได้จากทั้งระบบ iOSและ Android
นอกจากนี้ น.ส.รัชดา ยังได้อธิบายอีกว่า แอพพลิเคชัน “ทางรัฐ” ออกแบบมาตอบไลฟ์สไตล์ของประชาชนยุคดิจิทัล ให้สามารถตรวจสอบสิทธิ จ่ายบิล ติดตามสถานะการขอใช้บริการจากภาครัฐได้อย่างสะดวก และยกระดับการให้บริการประชาชนของรัฐให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถนำข้อมูลและบริการมาให้บริการ
อีกทั้งยังมีบริการที่พร้อมให้บริการประชาชน กว่า 30 บริการ เช่น การตรวจสอบสิทธิประกันสังคม สถานะผู้ประกันตน สิทธิหลักประกันสุขภาพ เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ข้อมูลเครดิตบูโร หนังสือรับรองผลการทดสอบ O-Net เช็คโฉนดที่ดิน บริการค่าน้ำ ค่าไฟ ที่สามารถชำระค่าบริการผ่านคิวอาร์โค้ด เป็นต้น และอนาคตจะมีบริการที่ครอบคลุมกว่า 100 บริการ ให้บริการประชาชนได้แบบเบ็ดเสร็จในจุดเดียว
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังได้เชิญชวนให้ประชาชนดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน ทางรัฐ เพื่อการเข้าถึงบริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จ ตลอด 24 ชั่วโมง สร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ขณะนี้รัฐบาลดิจิทัลของไทย อยู่อันดับที่ 57 จาก 193 ประเทศ ในปี2563 ดีขึ้น จากอันดับที่ 73 ในปี 2561 และอันดับที่ 77 ในปี 2559 ซึ่งนายกฯชื่นชมการพัฒนาและขอบคุณความร่วมมือ และความพยายามของทุกหน่วยงานภาครัฐในการขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัลตามนโยบายและยุทธศาสตร์ชาติที่วางไว้
ขอบคุณข้อมูลจาก Tnews