เป็นเรื่องราวที่ถูกแชร์เป็นอุทาหรณ์อยู่ประจำ สำหรับบ้านไหนที่มีลูกหลานอยู่ในวัยเด็ก หรือวัยที่กำลังเรียนหนังสือ ที่มักจะใช้โทรศัพท์มือถือของผู้ปกครองในการเล่นเกมออนไลน์ ถ้าหากโทรศัพท์มือถือเครื่องดังกล่าวผูกกับบัตรการเงินต่างๆอยู่แล้ว ก็ถือว่าเป็นง่ายต่อการเติมเกมเลยทีเดียว แต่คราวนี้ความซวยจะมาตกอยู่กับผู้ปกครองที่ต้องเป็นรับเคราะห์แทน อย่างกรณีล่าสุดที่ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ได้มีการโพสต์ไว้ในเพจทนายคู่ใจ โดยมีการระบุเรื่องราวว่า
"อุทาหรณ์สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครอง วันนี้มีคุณแม่ท่านหนึ่งโทรเข้ามาปรึกษากับทางทนายว่า ลูกชายอายุ 14 ปี ได้ขโมยบัตร ATM ของปู่ไปเติมเกม หมดเงินไปกว่า 1.6 แสนบาท
ปู่เพิ่งจะทราบเรื่องเมื่อวานเพราะจะไปถอนเงินกับทางธนาคาร ปรากฏว่าเงินในบัญชีเหลือ1,200 บาท ปู่สงสัยว่าเงินหายไปไหน เลยขอคัดสเตทเม้นจากธนาคารออกมา ก็พบว่ามีรายการโอนไปทั้งหมด 221 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 2 พ.ค.-26 มิ.ย.64 ซึ่งเป็นยอดที่เติมเกม รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 160,000 บาท ซึ่งก็หมดจากบัญชีธนาคารของปู่เลย
เมื่อสอบถามเด็ก เด็กก็บอกว่าไปแอบเอาบัตรปู่ไปผูกกับกูเกิ้ลเพลสโตร์เอง เล่นเกม fee fire ผูกครั้งเดียว ครั้งต่อไปก็กดซื้อได้เลย ตัดเงินในบัตรอัตโนมัติ ตอนนี้คุณแม่และปู่เครียดมาก เพราะเงินนั้นก็เป็นเงินเก็บจากการทำงานมาทั้งชีวิต จะทำยังไง จะได้เงินคืนไหม
สำหรับเรื่องนี้ก็อยากจะฝากไว้เป็นอุทาหรณ์สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองที่ปล่อยลูกไว้กับมือถือ ปล่อยให้เด็กๆ อยู่โซเชียล เราไม่รู้เลยว่าลูกเราจะทำอะไรบ้างในแต่ละวัน เด็กสมัยนี้เก่งกันมาก ทำเองเป็นหมดแล้ว ผู้ปกครองบางทีก็ตามไม่ทัน อยากให้ระมัดระวังกันด้วย เพราะเรื่องนี้ก็ไม่รู้ว่ายื่นเรื่องเข้าไปแล้วบริษัทเกมจะคืนเงินไหม"
ขอบคุณ FB : ทนายคู่ใจ
ขอบคุณข้อมูลจาก Tnews