วันที่ 16 ก.ย. 64 ทาง จอมขวัญ หลาวเพ็ชร์ นักข่าวชื่อดัง ได้เชิญนักวิชาการมาร่วมถกถึงประเด็นใครเป็นสื่อและใครไม่เป็นสื่อ ผ่านทางรายการมาเถอะจะคุย สื่บเนื่องมาจากประเด็น คฝ. มีการตรวจสื่อในพื้นที่ไม่ให้มีการไลฟ์สดและจับสื่อบางเจ้าที่ฝ่าฝืน ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีว่าในตอนนี้ไม่ได้มีแค่สื่อใหญ่ทางทีวีเท่านั้นแต่ยังมีสื่อย่อยเช่นเพจต่างๆ มันจึงกลายเป็นเรื่องที่ต้องมาถกกันในตอนนี้ ว่ามีบรรทัดฐานเช่นไรในการวัดว่าใครเป็นสื่อแท้ สื่อเทียม โดยนักวิชาการที่ร่วมถกประเด็นนี้ได้แก่ ณัฐพงศ์ มาลี แอดมินเพจสำนักข่าวราษฎร, อ.ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ ผู้ดำเนินรายการ Overview และ มงคล บางประภา นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยว่าตอนนี้ในสนามสื่อมวลชนใครคือสื่อบ้าง
โดยช่วงหนึ่ง อ.ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ ได้ให้ความคิดเห็นในประเด็นนี้ว่า ความต้องการของรัฐบาลที่แท้จริงคือต้องการตั้งเกณฑ์ว่าสื่อแบบไหนที่สามารถเข้ามารายงานเข้าได้มากกว่า ส่วนปัญหาเรื่องของการเป็นสื่อหรือไม่เป็นสื่อมันไม่น่าใช่ประเด็นหลักสักเท่าไหร่ โดยเมื่อคืนนี้มีข่าวว่าเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาตรวจเอกสารของสื่อไม่ใช่เพียงหัวเล็กแต่ยังมีหัวใหญ่เช่นไทยรัฐ , อมรินทร์ และก็ตรวจใบอนุญาต ว่ามีหลักฐานชัดเจนหรือไม่ในการทำงาน สุดท้ายเมื่อตรวจเอกสารเสร็จก็จบที่ห้ามสื่อไลฟ์สดอยู่ดี ส่วนเรื่องของณัฐพงศ์ มาลี แอดมินเพจสำนักข่าวราษฎร ที่ห้ามไลฟ์ก่อนหน้าเพราะไปถ่ายภาพของ คฝ. ยิงแก๊สน้ำตาได้ เป็นเพียงแค่จิ๊กซอว์ ตัวหนึ่งเท่านั้น เพราะต่อให้มีสังกัดชัดเจนก็ห้ามไลฟ์อยู่ดี และห้ามเข้ามาทำงานหลัง 3 ทุ่ม นั้นคือเจตนาที่แท้จริงของรัฐบาล
และในช่วงท้ายๆทาง อ.ศิโรตม์ ได้ฝากว่าเป็นเจ้าหน้าที่ต้องรักษากฎหมาย โดยยกเคสของผู้กำกับโจ้ ที่ใช้ถุงดำคลุมหัวผู้ต้องหามาวิน จนเป็นข่าวโด่งดังแบบนั้นมันทำไม่ได้ เป็นเจ้าหน้าที่ต้องอยู่บน กรอบกฎหมาย จะคิดว่าผู้ชุมนุมจัดหนักแล้วจะเอาคืนไม่ได้ แล้วมาห้ามสื่อรายงาน ความผิดไม่ได้อยู่ที่สื่อแต่อยู่ที่เจ้าหน้าที่ซึ่งกระทำการรุนแรงจนเกินกว่าเหตุแล้วมีภาพหลุดออกไป
นอกจากนี้ทาง อ.ศิโรตม์ ยังฝากถึงผู้ชุมนุมบางท่านที่มีความหมั่นไส้สื่อบางค่าย เช่น เนชั่น ที่เคยมีภาพลักษณ์ของพิธีกร ที่อาจทำให้ทางฝั่งผู้ชุมนุมไม่สบายใจ ซึ่งความจริงแล้วตอนนี้ทางเนชั่นได้มี การปรับเปลี่ยนผู้บริหารใหม่ยกชุด รวมถึงตัวพิธีกรอ่านข่าวเองก็มีชุดใหม่เข้ามา อ.ศิโรตม์ ขอเอาตัวเองการันตีว่านักข่าวภาคสนามของเนชั่นในตอนนี้เป็นทีมที่ดี โดยเฉพาะทีมลงทำข่าวพื้นที่ วิภาวดี นั้นมีจรรยาบรรณมาก ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทีมผู้บริหาร หรือพิธีกรเล่าข่าวชุดเก่าที่เคยทำแล้วส่งผลให้ผู้ชมในตอนนั้นไม่พอใจ ทาง อ.ศิโรตม์ จึงขอเอาหัวของตัวเองการันตีว่านักข่าวภาคสนามของ เนชั่น นั้นเป็นทีมที่ดีมาก พร้อมยกตัวอย่างเช่นน้องโอ๊ต กับ น้องเกณฑ์ เป็นนักข่าวที่ดี อย่าไปชี้หน้าหรือคุกคามเพราะหมั่นไส้แค่องค์กรเค้า อ.ศิโรตม์กล่าว