ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย นายนิรุฒ มณีพันธ์ เปิดเผยว่า การรถไฟฯ พร้อมสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศ และส่งเสริมการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นตามนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงคมนาคม โดยเปิดให้บริการขบวนรถเร็ว และรถท้องถิ่น รวมรถไฟจำนวน 7 ขบวน มุ่งสู่สถานีบุรีรัมย์ เพื่ออำนวยความสะดวกการเดินทางแก่ประชาชนที่ต้องการเที่ยวชมเทศกาลลูกชิ้นยืนกินที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 17-23 กันยายน 2564
ซึ่งกำลังเป็นกระแสโด่งดังไปทั่วประเทศ จากการเป็นอาหารโปรดของ ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า วงแบล็คพิงค์ ศิลปินชาวไทยที่กำลังโด่งดังในเวทีโลกทั้งนี้ โดยมีขบวนรถให้บริการระหว่างวันที่ 18 -24 กันยายน 2564 ดังนี้
ขบวนรถเร็วที่ 135 ออกจากสถานีกรุงเทพ เวลา 06.40 น. ถึงสถานีบุรีรัมย์ เวลา 14.19 น. โดยมีรถนั่งปรับอากาศพ่วงในขบวน 4 ตู้ต่อวัน
ขบวนรถเร็วที่ 136 ต้นทางออกจากสถานีอุบลราชธานี เวลา 07.00 น ถึงสถานีบุรีรัมย์ เวลา 10.27 น. มีรถนั่งปรับอากาศพ่วงในขบวน 4 ตู้ต่อวัน
ขบวนรถท้องถิ่น
ขบวน 427 ออกจากสถานีนครราชสีมา เวลา 14.20 น. ถึงสถานีบุรีรัมย์ เวลา 16.32 น. มีรถนั่งพัดลม 4 ตู้
ขบวน 421 ออกจากสถานีนครราชสีมา เวลา 06.10 น. ถึงสถานีบุรีรัมย์ 08.08 น. มีรถนั่งพัดลม 4 ตู้
ขบวน 233 ออกจากสถานีนครราชสีมา เวลา 16.50 น. ถึงสถานีบุรีรัมย์ 19.13 น มีรถนั่งพัดลม 4 ตู้
ขบวน 426 ออกจากสถานีอุบลราชธานี 12.35 น. ถึงสถานีบุรีรัมย์ 16.15 น. มีรถนั่งพัดลม 4 ตู้
ขบวน 428 ออกจากสถานีอุบลราชธานี 06.20 น. ถึงสถานีบุรีรัมย์ 09.53 น. มีรถนั่งพัดลม 4 ตู้
ทั้งนี้ ในด้านการให้บริการ การรถไฟฯ ได้คงมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งในขบวนรถโดยสารและสถานีรถไฟทั่วประเทศอย่างเคร่งครัด โดยกำหนดจุดคัดกรองผู้โดยสารก่อนเข้าในพื้นที่สถานี การตั้งจุดบริการแอลกอฮอล์ล้างมือ การให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา การสแกนแอพพลิเคชันไทยชนะ ก่อนและหลังใช้บริการ หรือให้กรอกข้อมูลการเดินทางแทน พร้อมกับต้องกรอกข้อมูลเดินทางข้ามจังหวัด-ข้ามเขตผ่านเว็บไซต์ https://covid-19.in.th/ “หยุดเชื้อ เพื่อชาติ”
โดยบุคคลที่เดินทางเข้าจังหวัดบุรีรัมย์โดยไม่ต้องกักตัว จะต้องได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 1 เข็ม มากกว่า 14 วัน หรือวัคซีนชนิดอื่นใดครบตามเกณฑ์ที่กำหนด ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews