วันนี้ (7 ต.ค.2564) กรมชลประทาน ตั้งศูนย์บริหารจัดการอุทกภัย ลุ่มน้ำชี และลุ่มน้ำมูล (ส่วนหน้า) เพื่อเป็นศูนย์บัญชาการ ประสานการปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือ แก้ไขและบรรเทาอุทกภัยลุ่มน้ำชี-มูล ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเฝ้าระวัง ติดตาม ประเมินและวิเคราะห์แนวโน้มของสถานการณ์ รวมทั้งแจ้งเตือนภัยให้กับประชาชนได้อย่างทันท่วงที
ด้าน นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากการคาดการณ์สภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่ามีร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังค่อนข้างแรง ในช่วงวันที่ 7-11 ตุลาคม 2564
อีกทั้งพายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ในช่วงวันที่ 10 - 11 ตุลาคม 2564 ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง จากการประเมิน "มวลน้ำ" หลากสูงสุดจากลำตะคอง ลำจักราช จังหวัดนครราชสีมา และลำน้ำสาขาลุ่มน้ำมูลตอนบน คาดการณ์มวลน้ำสูงสุดจะไหลผ่านจังหวัดอุบลราชธานี ในช่วงวันที่ 8 - 11 ตุลาคม 2564 ส่งผลให้แม่น้ำมูลมีระดับน้ำเพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณ 0.50 – 1 เมตร
โดยมีพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังระดับน้ำเอ่อล้นตลิ่งบริเวณริมแม่น้ำมูล ดังนี้
- จังหวัดบุรีรัมย์ อำเภอสตึก
- จังหวัดสุรินทร์ อำเภอชุมพลบุรี อำเภอท่าตูม และอำเภอรัตนบุรี
- จังหวัดร้อยเอ็ด อำเภอโพนทราย และอำเภอสุวรรณภูมิ
- จังหวัดศรีสะเกษ อำเภอเมืองศรีสะเกษ อำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ อำเภอบึงบูรพ์ อำเภอยางชุมน้อย อำเภอราษีไศล อำเภอศิลาลาด อำเภออุทุมพรพิสัย และอำเภอกันทรารมย์
ขณะเดียวกันจะมี "มวลน้ำ" หลากจากแม่น้ำชี ไหลมารวมกับแม่น้ำมูลที่จังหวัดอุบลราชธานี ก่อนไหลลงสู่แม่น้ำโขงตามลำดับ คาดการณ์ว่า "มวลน้ำ" สูงสุดจะไหลผ่านจังหวัดอุบลราชธานี ในช่วงวันที่ 16 - 20 ตุลาคม 2564 โดยมีพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังระดับน้ำเอ่อล้นตลิ่งบริเวณริมแม่น้ำมูล ในเขตอำเภอเขื่องใน อำเภอเมือง อำเภอดอนมดแดง อำเภอม่วงสามสิบ อำเภอวารินชำราบ และอำเภอสว่างวีระวงศ์
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ อธิบดีกรมชลประทานได้สั่งการไปยังสำนักงานชลประทานและโครงการชลประทานในพื้นที่ ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะบริเวณจุดเสี่ยงและพื้นที่ที่ยังมีน้ำท่วมขังอยู่ พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ข้อมูลและแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำชี แม่น้ำมูล และลำน้ำสาขา รวมไปถึงความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนได้ทันที จนกว่าสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ