โดย นายสิปปนนท์ เผยว่า ระหว่างที่ตนกำลังเล่นเฟซบุ๊กก็พบโฆษณาเกี่ยวกับวงเงินกู้ ที่มีโลโก้ธนาคารปรากฏอยู่ ตนหลงนึกว่าเป็นเว็บไซต์ของธนาคารจึงกดเข้าไปเพื่อจะเช็กสเตทเมนต์ โดยมีการใส่ข้อมูลประวัติทั่วไปและถ่ายรูป ตามขั้นตอนปกติเพื่อยืนยันตัวตน แต่มาเอะใจตรงหน้าสุดท้ายซึ่งให้เราเลือกจำนวนเงินที่จะกู้ แต่ตนไม่ได้ต้องการกู้เงิน จึงกดย้อนกลับไปหน้าแรก และกดออกจากหน้าเว็บไป
แต่ปรากฏว่าหลังผ่านไป 5 ชั่วโมง มีบัญชีของธนาคารหนึ่งโอนเงินเข้ามา 3 ครั้ง 3 บัญชี ในนามบุคคลโดยมีชื่อแตกต่างกัน เป็นจำนวนเงิน 1,740 บาท 1,575 บาท และ 1,860 บาท ตามลำดับ ซึ่งตนได้พยายามติดต่อกลับเพื่อจะโอนเงินคืน แต่ไม่มีช่องทางใดให้ติดต่อกลับได้
ทั้งนี้ ตนไม่กล้าใช้เงินที่ถูกโอนเข้ามาเพราะกลัวเป็นหนี้ พยายามหาทางติดต่อทุกวัน แต่เหมือนเป็นการสื่อสารด้านเดียว ไม่สามารถติดต่อได้เลย
จนเมื่อผ่านไป 7 วัน มีคนโทรศัพท์มาทวงเงิน อ้างว่าได้ยืมเงินไปจำนวน 3,180 บาท โดยคิดดอกเบี้ยตั้งแต่ยืม จนชนงวดต่อ 7 วัน เป็นเงิน 1,440 บาท หรือคิดเป็นอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 83 ต่อ 7 วัน ซึ่ง นายสิปปนนท์ ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำการกู้ยืมใคร แล้วไปแจ้งความที่ สน.บางเสาธง
ทั้งนี้ มีอยู่ 1 บัญชีที่เจ้าหน้าที่แนะนำว่าให้โอนคืนเท่ากับจำนวนเงินที่โอนเข้ามา ส่วนอีก 2 บัญชียังไม่ยอมให้โอนคืนเงินตน ยืนยันว่าตนไม่ได้เดือดร้อนและไม่กล้าถอนเงินมาใช้ จึงอยากฝากเตือนคนอื่น ๆ อย่าหลงเชื่อโฆษณาและเผลอเข้าไปให้ข้อมูลส่วนตัวเช่นนี้ มิเช่นนั้นอาจต้องเสียทั้งเงินและเวลาโดยใช่เหตุ