แต่ละรายโดนไปหลักแสนถึงหลักล้าน พร้อมให้เหตุผลว่า ทำผิดกฎ แต่คนที่โดนมากที่สุดคือ 17 ล้านบาท ต่อมาทางด้านเฟซบุ๊ก EasyYukhon มีการโพสต์คลิปบรรดาร้านค้ารวมตัวที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล ถ.พิษณุโลก เพื่อโวยการเรียกเงินคืนของทางรัฐ พร้อมสัมภาษณ์เปิดใจบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่เข้าร่วมโครงการ ทุกคนต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า ถ้ารู้แบบนี้คงไม่เข้าร่วมโครงการแน่
ขณะเดียวกัน ร้านที่โดนเรียกเงินคืนไป 17 ล้านบาท ก็มาร่วมร้องเรียนด้วย เปิดเผยว่า ตนทำธุรกิจเป็นร้านขายหมูกระทะอยู่ในมหาวิทยาลัยมหาสารคามมา 12 ปี มี 3 สาขา สาเหตุที่โดนคือ มีการสแกนข้ามเขตจังหวัด มีลูกค้าเป็นนักศึกษา 40,000 คนจากหลายพื้นที่ ทำให้เกิดการสแกนที่มากเกินไป มียอดเงินมากเกินไป จึงกลายเป็นจุดบอด
ทั้งนี้ ตนยืนยันว่า เรามีการค้าขายจริง ลูกค้าได้ของจริง ยอมรับว่ามีการจ่ายเงินผ่านแอปฯ แล้วมีการทอนเงินคืนกลับไป เพื่อให้นำเงินไปใช้อย่างอื่นได้ แต่ก็มีเงื่อนไขคือ ต้องซื้อของจากร้านเราก่อนเท่านั้น
ในส่วนของเงินที่เรียกมาถึง 17 ล้าน มันมากกว่าเงินทุนของร้านอีก ซึ่งเมื่อโดนขนาดนี้ ทางร้านต้องสู้เต็มที่ ไม่มีทางเลือกแล้ว เหลือกำไรแค่นิดหน่อย ยังไงก็ต้องสู้ ส่วนหลักฐานที่จะนำไปสู้ ยอมรับว่าไม่มี เนื่องจากตนสั่งของมาจากมหาชัย แต่ไม่ได้เก็บบิลเอาไว้ ไม่คิดว่าจะเจอเรื่องแบบนี้
นอกจากนี้ สิ่งที่ตนโดนถือว่าไม่ยุติธรรม เพราะระเบียบที่เขียนออกมากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป เพราะการล็อกดาวน์ ร้านจึงต้องแก้ปัญหาแบบเฉพาะหน้า ในสัญญาก็ไม่มีการบอกว่า ผิดกฎจะยึดเงินคืน และร้านตนก็ไม่มีการโกง ทุกคนได้ของจากร้านครบ