ยังคงต้องติดตามอย่างต่อเนื่องกับสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ล่าสุด หมอธีระ หรือ รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ถึง สถานการณ์โควิด-19 ว่า
18 ตุลาคม 2564
ยอดติดเชื้อใหม่เมื่อวานของไทย หากรวม ATK พุ่งเป็นอันดับ 5 ของโลก
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 298,750 คน ตายเพิ่ม 4,173 คน รวมแล้วติดไปรวม 241,452,974 คน เสียชีวิตรวม 4,913,886 คน
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ สหราชอาณาจักร รัสเซีย ตุรกี อเมริกา และอินเดีย
จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งรวมกันคิดเป็นร้อยละ 94.75 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 90.55
สำหรับสถานการณ์ไทยเรา
เมื่อวานติดเชื้อเพิ่ม 10,863 คน สูงเป็นอันดับ 9 ของโลก
แต่หากรวม ATK อีก 4,125 คน ก็พุ่งเป็นอันดับ 5 ของโลก และอันดับ 2 ของเอเชีย เป็นรองเพียงตุรกีประเทศเดียว
และไม่ว่าจะเป็นแค่ยอดที่รายงานทางการ หรือจะรวม ATK ก็ยังคงเป็นอันดับ 1 ของอาเซียนอย่างต่อเนื่อง
จำนวนเสียชีวิตใหม่เมื่อวานนี้ ไทยแม้จะต่ำกว่าร้อย แต่ก็สูงเป็นอันดับ 12 ของโลก
เช้านี้ข่าวจากทีวีรายงานเรื่องวงพนันต่างจังหวัด รวมถึงผับบาร์ในเมืองหลวงเปิดบริการดื่มเหล้ากันเป็นร้อยคน โดยที่ทางการยังไม่ได้อนุญาต
ลักษณะการใช้ชีวิตดังกล่าว ท่ามกลางสถานการณ์ระบาดรุนแรงเช่นนี้ ฟันธงว่าไม่มีทางรอด การระบาดเป็นกลุ่มก้อนใหญ่จะเกิดขึ้นแน่ ไม่ช้าก็เร็ว
เหตุการณ์ต่างๆ ข้างต้น สะท้อนให้เห็นว่า กฎระเบียบนั้นมีไว้มากเพียงใดเข้มเพียงใดก็ได้ แต่จะไม่เกิดผล หากคนไม่เห็นความสำคัญ ไม่ปฏิบัติตาม และหากไม่มีกำลังในการตรวจสอบ กำกับดูแล อย่างทั่วถึง
ด้วยเหตุผลข้างต้น หลังพฤศจิกายนเป็นต้นไป ความเสี่ยงจะมากขึ้นอย่างแน่นอน
ผู้ประกอบกิจการ และคนทำงานในธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคนจำนวนมาก หรือมีกิจกรรมที่ให้บริการ ใกล้ชิด สัมผัส สังสรรค์ ดื่มกิน ควรตระหนักถึงความเสี่ยงให้ดี และปฏิบัติตัวให้ถูกต้อง คำนึงถึงความปลอดภัยทั้งต่อตนเองและคนมาใช้บริการ
มิฉะนั้น ท่านจะประกอบกิจการ หรือทำงานไปได้เพียงระยะสั้น ต้องประสบปัญหาปิดกิจการ หรือหยุดงานได้ในไม่ช้า หากไม่ป้องกันอย่างเคร่งครัด
สำหรับประชาชนทั่วไป ขอให้ใช้ชีวิตอย่างมีสติ ป้องกันตัวเสมอ
แม้ช่วงนี้การระบาดของไทยยังเป็นไปต่อเนื่อง และรุนแรงกว่าประเทศอื่นๆ อีกมาก แต่หากชั่งน้ำหนักเรื่องความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นหลังเปิดประเทศเดือนหน้าแล้ว ในช่วง 4 สัปดาห์ถัดจากนี้ อาจเป็นช่วงที่เหมาะสมที่จะเคลียร์ธุระสำคัญทั้งหลาย เพื่อเตรียมพร้อมรับมือความเสี่ยงช่วงปลายปีถึงต้นปีหน้า ตระเตรียมไว้ก่อนเพื่อความไม่ประมาท
รวมถึงเรื่องการไปหาหมอ ตรวจโรคประจำตัว รับยาที่จำเป็นต้องทานประจำ หรือรักษาโรคบางอย่างที่จำเป็นต้องรักษา
แต่หากบริการไหน ใช้แบบเทเลได้ต่อเนื่อง ย่อมเป็นการดี
ถ้าออกไปทำธุระปะปัง อย่าลืม ต้องใส่หน้ากากเสมอ เรื่องนี้สำคัญมาก
ด้วยรักและห่วงใย
ที่มา Thira Woratanarat
ขอบคุณข้อมูลจาก Tnews