เมื่อเศรษฐีชายรายหนึ่งได้ออกมาโพสต์เว่ยป๋อ บ่นเกี่ยวกับทัศนคติและบริการที่แย่สุด ๆ จากการเข้าไปใช้บริการที่ธนาคารดัง สาขาหงเหมย ในนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เศรษฐีรายนี้ยังชี้ว่า จากทัศนติแย่ ๆ ของพนักงาน ทำให้เขาตัดสินใจจะถอนเงินออกทั้งหมด นำไปฝากยังธนาคารอื่น แต่เนื่องจากเงินฝากของเขามีจำนวนมาก ไม่สามารถถอนเงินกว่าสิบล้านหยวนออกมาพร้อมกันหมดในคราวเดียว เขาจึงถอนออกไปก่อน 5 ล้านหยวน (ราว 25 ล้านบาท) ซึ่งทางธนาคารต้องใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมง กว่าที่เขาจะนำเงินออกมาได้
พร้อมกันนั้นเขายังเผยภาพเงินสดกองใหญ่ ที่ถูกถอนออกมาเป็นตั้ง ๆ นำมาใส่กระเป๋าเดินทางโดยมีคนช่วยขนไปใส่ท้ายรถ โพสต์ดังกล่าวเรียกความสนใจจากชาวเน็ตในเวลาอันรวดเร็ว นำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย แต่ต่อมากลับมีชาวเน็ตบางรายออกมาโพสต์แฉ
อ้างว่าเป็นฝ่ายเศรษฐีรายนี้ที่ไม่ยอมสวมหน้ากากอนามัย ขณะเข้าไปในธนาคารช่วงที่มีการระบาดของโรค จึงถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้ามาขวาง ทางผู้รับผิดชอบได้พยายามเข้ามาอธิบายให้ทางเศรษฐีฟัง แต่ก็ไร้ประโยชน์ แถมเขายังสั่งให้ผู้รับผิดชอบสาขาดังกล่าวคุกเข่าด้วย
ต่อมาทางเศรษฐีรายดังกล่าวได้ออกมาโต้กลับ ยืนยันว่าตัวเองให้ความร่วมมือและเคารพกฎในการป้องกันและควบคุมโรคเป็นอย่างดี จริงอยู่ที่ตอนแรกเขาไปถึงประตูธนาคารโดยไม่สวมหน้ากากอนามัย ทาง รปภ. ก็เตือน ซึ่งจากนั้นเขาก็รีบออกไปหาซื้อหน้ากากทันที ยืนยันว่าเขาให้ความร่วมมือดี แต่เป็นกลับพนักงานของธนาคารต่างหากที่มีการดึงหน้ากากมาไว้ใต้คางระหว่างปฏิบัติหน้าที่