ความคืบหน้าล่าสุดคดีดัง "ผู้กำกับโจ้" พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ เเละพวก ล่าสุดในวันที่20 ต.ค.64 ศาลจังหวัดนครสวรรค์ ได้ศาลอ่านคำสั่งคดีชันสูตรการเสียชีวิต หมายเลขดำ ช.7/2564 ที่พนักงานอัยการจังหวัดนครสวรรค์ ยื่นคำร้องขอไต่สวนการเสียชีวิตของ"มาวิน" นายจิระพงศ์ ธนะพัฒน์ เหยื่อ"ผู้กำกับโจ้" ถูกถุงคลุมหัว ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิ.อ.) มาตรา 150
ซึ่งมีการกล่าวหาว่าการเสียชีวิตของนายจิระพงศ์ เมื่อวันที่ 6 ส.ค.64 เวลา 13.20 น. เกิดขึ้นโดยการกระทำของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล , พ.ต.ต.รวีโรจน์ ดิษทอง , ร.ต.อ.ทรงยศ คล้ายนาค , ร.ต.ท.ธรณินทร์ มาศวรรณา , ด.ต.วิสุทธิ์ บุญเขียว , ด.ต.ศุภากร นิ่มชื่น , ส.ต.ต.ปวีณ์กร คำมาเร็ว เจ้าพนักงานซึ่งอ้างว่าปฏิบัติราชการตามหน้าที่ และเสียชีวิตในระหว่างอยู่ในความควบคุมเจ้าพนักงาน ซึ่งปฏิบัติราชการตามหน้าที่
โดยขอให้ศาลทำการไต่สวน และทำคำสั่งตาม ป.วิ.อ. มาตรา 150 วรรคห้า แสดงว่าผู้ตายคือใคร ตายที่ไหน เมื่อใด กับเหตุกับพฤติการณ์ที่ตาย และหากตายโดยคนทำร้าย ใครเป็นผู้กระทำเท่าที่จะทราบได้ ผกก.โจ้
ซึ่งศาลจังหวัดนครสวรรค์ ได้ทำการไต่สวนแล้ว จึงมีคำสั่งว่า ผู้ตาย คือ "มาวิน"จิระพงศ์ ธนะพัฒน์ เสียชีวิตที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ตำบลปากน้ำโพ อำเภอเมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ เมื่อวันที่ 6 ส.ค.64 เวลา 13.20 น. เหตุและพฤติการณ์ที่ตาย คือขาดอากาศหายใจ เนื่องจากถูก พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ "ผู้กำกับโจ้" กับพวก ร่วมกันใช้ถุงพลาสติกครอบศีรษะเป็นเวลานานมากกว่า 6 นาที ในขณะที่ทำการสืบสวนขยายผล ในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ อันเป็นการเสียชีวิตในระหว่างอยู่ในความควบคุมของเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติราชการตามหน้าที่ผู้กำกับโจ้
-ศาลชี้ขาด สาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง "มาวิน" เหยื่อ "ผู้กำกับโจ้"
-ระบาดหนัก! เตือนกลโกงแบบใหม่อ้าง "คนละครึ่ง" หลอกโอนเงินออกจากบัญชี
-เปิดชีวิตวันแรกในเรือนจำ เติ้ล ธนพล ถูกจับตัดผมสั้น รับทำใจไว้แล้ว
ในส่วนของ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผบก.ป. เปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่า ผลการไต่สวนดังกล่าวที่ออกมาเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี หลังจากนี้พนักงานสอบสวนกองปราบปรามเตรียมแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ผู้กำกับโจ้และพวก ในข้อหา ตามมาตรา 172 ฐานเป็นเจ้าพนักงานของรัฐผู้ใดปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตําแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อํานาจในตําแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่หนึ่ง1ปี ถึง10ปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews