ปัญหาชีวิตคู่เป็นอีกหนึ่งอย่างที่หลายคนมักกลุ้มใจ อย่างเช่นหญิงสาวรายนี้ ที่เธอทนไม่ได้ขอนำปัญหามาระบายและขอคำปรึกษาจากชาวเน็ตในหัวข้อที่ว่า "แฟนไม่แฮปปี้ที่เราเป็นคนใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย แต่เรามองว่าเป็นการซื้อความสุข ต้องปรับยังไงให้ไปกันรอด"
เธอเริ่มต้นเล่าความเป็นมาว่า "เราทำงานรายได้รวมหลักแสน ปัจจุบันมีภาระอย่างเดียวคือผ่อนคอนโดอยู่ประมาณ 20 - 30% ของรายได้ แล้วแต่ช่วง เหลือใช้กับเก็บค่อนข้างโอเค ชีวิตถือว่าสบายในระดับหนึ่ง แฟนเป็นคนประหยัด แต่เป็นคนชอบทานเหมือนกัน เลยเข้ากันได้มากๆ ส่วนใหญ่เรากับแฟนคือจะใช้เยอะหนักไปทางค่าอาหารเพราะชอบลองร้านใหม่ๆ
ด้วยความที่แฟนเราเป็นคนช่างสังเกต เวลาเราซื้ออะไรใหม่ๆ มาไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ถ้าเค้าไม่เคยเห็นเค้าจะทักและถามราคา ส่วนตัวเราไม่ได้อยากพูด เค้าก็จะไป Google หา ทำให้หลังๆ มา เราเลยจะบอกก่อนทุกครั้งว่าเราอยากได้อะไร
กะว่าจะซื้ออะไร แล้วเค้าก็จะบอกว่าเราฟุ่มเฟือย ซื้อของแพง เช่น กระเป๋าแบรนเนม ซึ่งเค้ามองว่าไม่จำเป็น และแพงเกินควร ต้องการให้เราเอาเงินไปลงทุนมากกว่าเพื่อให้เงินมันงอกเงย ซึ่งถือว่าเป็นคำแนะนำที่ดี แต่เราซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมปีละครั้ง เฉพาะใบที่อยากได้จริงๆ
หลังๆ มาแม้แต่เรื่องอาหาร ถึงแม้เวลาเราซื้อมาราคาไม่กี่ร้อยแฟนก็เริ่มหาว่าแพง (ไม่ได้ทานด้วยกันนะคะเราซื้อมาทานของเราเอง) ทั้งๆ ที่เราบอกว่าเราเหนื่อยทำงาน เวลาพักเราต้องการทานอาหารอร่อยๆ มันเป็นความสุขของเรา เงินของเรา
เค้าก็จะบ่น บอกให้เราหัดทำอาหารเองจะได้ประหยัดขึ้น ซึ่งเค้าก็รู้ว่าเราทำอาหารไม่เป็น มันทำให้เราเริ่มหงุดหงิด ทั้งที่รู้ว่าที่เค้าพูดเค้าหวังดี แต่เหมือนเค้าติดภาพที่เราใช้เงินเก่งไปแล้ว บ้านเค้าค่อนข้างฐานะดีมาก และสอนลูกมาดีคือให้ประหยัดและหัดลงทุน
และนั้นมันเป็นจุดที่เราชอบมากๆ แต่ในขณะเดียวกัน เราก็อยากมีอิสระในการใช้เงินที่เราหามาเอง โดยที่ไม่ให้กระทบกับความสัมพันธ์ ไม่ต้องโดนบ่น เราควรต้องทำอย่างไร หรือปรับแบบไหนดีคะ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ"
หลังจากที่เธอโพสต์ไปแล้วทำให้มีชาวเน็ตต่างเข้ามาให้คำแนะนำว่า สมาชิกพันทิปรายได้เยอะกันทั้งนั้นจริงๆ ผมนี่ได้แต่มอง 5555 ผมไม่ซีเรียสกับคำถามนี้นะ เพราะดูชีวิต จขกท. แฮปปี้ มีความสุขดีแล้ว แค่อยากทำยังไงให้มีความสุขมากขึ้นไปอีก
แบบว่าตัดความหงุดหงิดออกให้หมด ชีวิตเราดีอยู่แล้ว มาถึงระดับนี้ ต้องพอใจในสิ่งที่มีมากๆ เลยครับ ผมไม่เคยมีกระเป๋าแบรนด์เนมเลยสักอัน (เพราะผมก็ไม่สนใจด้วยแหละ ผมเป็น ผู้ชาย 555 จะสะพายกระเป๋าไปทำไม) คือไหล่ผมกว้าง สะพายข้างแล้วมันชอบตกนะ กล้ามเยอะไปหน่อย โอเค นอกเรื่องละ 555
ผมมองว่าจะปรับตัวยังไง ก็ต้องจูนทั้ง 2 ฝ่ายเข้าหากัน คนละนิดครับ ตามนโยบายลุง TU "คนละครึ่ง" เฟส 3 จขกท. ก็ประหยัดขึ้นบ้าง และแฟนก็อนุญาตให้ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายบ้าง ขยับเข้าหากัน คนละ 50%
สุดท้ายนี้ก็สายมืดครับ ซื้อแต่ไม่บอก พอโดนถามก็ตีมึนบอก "อ่อ ฉันซื้อมานานแล้ว ไม่รู้รึไงฉันเคยใช้เงินเก่ง ไม่สังเกตเลยนะที่รัก" พูดไปแบบนี้แหละครับ 555 เขาเรียกพอโดนจับผิด เราก็แอ๊บไปจับผิดเขาแทน เบี่ยงเบนประเด็นไป เทคนิคนี้ work มากๆ
ข้อมูลจาก พันทิป