จากกรณีตัวแทนเพจสายไหมต้องรอด พานายไชยา แสงสง่า 45 ปี เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.สายไหม กรณีที่ถูกเจ้าของร้านขายก๋วยเตี๋ยวย่านสายไหมสาดน้ำร้อนใส่จนได้รับบาดเจ็บ หลังจากที่เข้าไปขออาหาร ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา
ผู้บาดเจ็บเป็นชายเร่ร่อน มีชื่อว่า นายไชยา ยอมรับว่า ดื่มสุราก่อนเข้าไปขออาหาร ซึ่งปกติก็ดื่มสุราเป็นประจำอยู่แล้ว โดยในวันเกิดเหตุก็ไปพูดจาไม่ดีกับลูกจ้างในร้านก่อน จึงทำให้เจ้าของร้านไม่พอใจนำน้ำร้อนสาดจนตนเองได้รับบาดเจ็บ
อย่างไรก็ตาม การมาแจ้งความครั้งนี้ก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะเอาผิดและเรียกร้องอะไรกับเจ้าของร้าน เนื่องจากทางร้านก็เคยให้อาหารกินอยู่เป็นประจำ ด้วยความสนิทสนมเลยเลยไม่คิดว่าการพูดจาไม่ดี จะทำให้ทางเจ้าของร้านไม่พอใจ
ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เปิดเผยว่า พานายไชยามาเข้าแจ้งความที่ สน.สายไหม ก็เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ว่าก็ใครสามารถทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้ตามอำเภอใจ โดยยอมรับว่านายไชยาก็มีส่วนผิด แต่ไม่ควรทำร้ายผู้อื่นเช่นนี้ บ้านเมืองมีกฎหมาย ซึ่งเมื่อเกิดเรื่องทางเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวก็ไม่คิดว่าจะได้รับบาดเจ็บมากขนาดนี้ และรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปเช่นกัน
ส่วน นางสาวอรอุมา วัฒนะเวชศักดิ์ เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวผู้ก่อเหตุ ก็ได้มาเข้าพบพนักงานสอบสวน สน. สายไหม เพื่อให้การกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยชี้แจงว่าในวันเกิดเหตุ นายไชยาเมาสุราแล้วเข้ามานั่งมองลูกค้าผู้หญิงในร้าน จึงบอกให้ออกจากร้านไป แต่ก็ไม่ยอมออก แถมยังกวนประสาทโดยการเต้นล้อเลียน จึงเหลืออดสาดน้ำร้อนไป
ที่ผ่านมาได้ให้ข้าวนายไชยากินมา 7 ปี คุ้นเคยกันมานาน ไม่คิดว่านายไยาจะได้รับบาดเจ็บมากขนาดนี้ จึงอยากขอโทษกับสิ่งที่ทำลวงไป และยินดีที่จะดูแลรับผิดชอบเรื่องการดูแลรักษาอาการบาดเจ็บของนายไชยาต่อไป
พันตำรวจเอกอำนาจ กาหลง ผู้กำกับการ สน.สายไหม เปิดเผยว่ามได้ดำเนินคดีกีบนางสาวอรอุมา ข้อหาทำร่ายร่างกาย ซึ่งพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานรวมทั้งผลการตรวจร่างกายของนายไชยาจากแพทย์ คดีนี้จะดูเจตนาการก่อเหตุเป็นหลัก สามารถปรับผู้ก่อเหตุในชั้นพนักงานสอบสวนได้ ส่วนการดูแลรักษาพยาบาลขึ้นอยู่กับทางคู่กรณีตกลงกัน
และนาทีที่เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวกับชายเร่ร่อนพบหน้ากันทั้งคู่ได้ตกลงเคลียร์ใจ โดยเจ้าของร้านได้ขอโทษพร้อมบอกว่าไม่ได้ตั้งใจไม่คิดว่าจะทำให้เจ็บหนักขนาดนี้ ที่ผ่านมาตนก็ให้นายไชยากินก๋วยเตี๋ยวฟรีมาตลอด และตกลงกันว่าหากวันไหนคนเยอะก็อย่าเพิ่งเข้ามากวนในร้าน
ด้านนายไชยาบอกว่าที่ตนไม่เอาความเป็นเพราะเห็นว่าเจ้าของร้านใจดีช่วยเหลือตนมาตลอดนั่นเอง