จากกรณี วันนี้ 2 พ.ย.2564 นาย สุวิทย์ ทองประเสริฐ อดีต พระพุทธะอิสระ ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุ
มหาสู้ๆ มหาสู้ตาย มหาไว้ลาย มหาสู้แล้วอย่าตายนะมหา
๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๔
สงสาร เอย แสนสงสาร
เห็นภาพน้ำตารอการระบาย น้ำมูกไหล ปากแบะ ของมหาทั้งสองรูปแล้ว มันทำให้เข้าใจได้ว่า นี่คือตัวอย่างของผู้ที่เข้ามาอาศัยผ้าเหลือง เพียงเพื่อยกสถานะทางสังคมเท่านั้น
ไม่ได้เข้ามาเพราะศรัทธาในพระธรรมวินัย และศึกษาอาศัยพระธรรมมาชำระ มาฟอกจิต
เมื่อถึงคราวที่ทุกข์เข้ามาถาโถม บีบคั้น ครอบงำ จึงหาทางออกไม่ได้ สุดท้าย ก็ต้องให้ทุกข์รอการระบายออกมาอย่างที่มหาสองคนทำให้เห็นๆ
นี่คือตัวอย่างของภาษิตที่ว่า ใกล้เกลือกินด่าง
อยู่กับธรรมะ มาตั้งแต่เล็กยันโต แต่กลับไม่ปฏิบัติธรรม ไม่ทดลอง ทดสอบ พิสูจน์ธรรม ที่แปลว่าเครื่องฟอก เครื่องชำระล้างจิต
- "คลัสเตอร์โรงพักโคราช" ยอดติดเชื้อโควิดเพิ่ม ล่าสุดลามไปถึงครอบครัว
- เผยคลิป โรงหนังสกาลาโดนรื้อถอน ชาวเน็ตสงสัยตอนแรกไม่ได้ตกลงกันแบบนี้
- เช็กรายละเอียด หากแพ้วัคซีนโมเดอร์นา สามารถรับเงินเยียวยาได้เท่าไหร่
พอถึงคราวที่จิตถูกความทุกข์ยาก เดือดร้อน บีบคั้น ก็หาทางปลดเปลื้องทุกข์นั้นๆ ไม่ได้ จึงแสดงพฤติกรรมหน้าแดง ปากแบะ น้ำหูน้ำตาเอ่อล้นรอการระบายอย่างน่าอับอาย เสียหายต่อผ้าเหลือง พระธรรมวินัย และพระพุทธศาสนา
ที่ต้องนำเรื่องนี้มาเขียน ก็เพื่อเตือนสหธรรมิกทั้งหลาย ผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการผ้าเหลือง ว่าจะทำอะไร จะพูดอะไร จะคิดอะไร ก็อย่าทิ้งหลักธรรม ซึ่งเป็นหลักการ หลักใจ หลักชัย ในพระพุทธศาสนา
อย่าทำตนเป็นคนหลักลอย เหมือนดังที่มหาสองคนเขาทำกัน
มันขายขี้หน้า เสียยี่ห้อมหาเปรียญธรรม ๙ ประโยค
พุทธะอิสระ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews