กำลังเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ชาวเน็ตกำลังให้ความสนใจอย่างมาก เนื่องจากสาวในพื้นที่ จ.อำนาจเจริญ ที่กำลังอุ้มท้องแก่ กำลังจะไปคลอดที่โรงพยาบาลชื่อดังในพื้นที่ ทว่าหมอได้บอกให้เธอฉีดวัคซีนโควิดก่อนจะเข้าห้องคลอด แต่เมื่อฉีดแล้วและได้ให้กำเนิดลูกสาวออกมากลับพบว่าทารกน้อยเสียชีวิตแล้ว
โดยคุณแม่คนดังกล่าวได้โพสต์ภาพลูกน้อยแรกเกิดลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมทั้งระบุข้อความว่า "ความสูญเสียที่แสนเจ็บปวด R.I.P. น้องเฌอลินน์ ลูกแม่ แม่ดูแลหนูมาอย่างดี ทำไมหนูมาจากแม่ไปไวแท้ ยังไม่ทันกอดทันหอมกันเลย ไว้ตอนหนูพร้อมหนูค่อยมาเกิดกับพ่อกับแม่ใหม่เด้อลูก บุญเราคงมีมากันแค่นี้" ทำให้เพื่อนๆ ของเธอต่างมาให้กำลังใจอย่างมาก
ตามคำบอกเล่าของ พัชราพร พุทธรักษา หรือ น้องคะแนน วัย 20 ปี คุณแม่ผู้โชคร้ายคนดังกล่าวเล่าว่า ตนและสามีได้เดินทางไปยัง รพ.ชานุมาน เพื่อรอคลอด เนื่องได้ครบกำหนดตั้งครรภ์ 38 สัปดาห์ตามที่หมอนัด ตนได้ยื่นบัตรต่อ รพ.และรอคลอด มีจนท.พยาบาลได้มาสอบถามว่า "ได้รับการฉีดวัคซีนหรือไม่" จะต้องฉีดวัคซีนก่อนคลอด
ตอนนั้นตนประสงค์ขอฉีดหลังคลอด แต่พยาบาลไม่ยอม จึงจำยอมฉีด ซึ่งหลังฉีดเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่จึงส่งเตียงไปรอที่ห้องคลอด และนำเครื่องวัดคลื่นหัวใจมาวัด กลับไม่พบชีพจรของลูกแล้ว เมื่อแพทย์เวรมาถึงได้วัดซ้ำอีกครั้ง ปรากฏว่า ลูกในท้องเสียชีวิตแล้ว ซึ่งตนเองเชื่อว่า การเสียชีวิตของลูกในครั้งนี้ มาจากการฉีดวัคซีนแน่นอน เพราะก่อนฉีดวัคซีนลูกในท้องยังเคลื่อนไหวอยู่
ทันที ที่เด็กคลอดออกมา หมอก็ระบุว่า สาเหตุการเสียชีวิตคือสายรกพันคอ แม้ว่าหมอจะบอกแบบนี้ แต่คุณแนนกับญาติก็ยังคาใจอยู่ อีกทั้งวัคซีนที่ฉีดคือ ซิโนแวค ซึ่งสามารถฉีดกับคนอายุครรภ์ 38 สัปดาห์ได้จริงหรือ รวมถึงการทำงานที่ล่าช้า กว่าจะนำทารกออกมาได้ก็ใช้เวลา 4-5 ชั่วโมง ขณะเดียวกัน หลักฐานที่มีคือ ใบฉีดวัคซีน มีการนัดฉีดเข็ม 2 แล้วแต่ใบผลอัลตราซาวด์ที่ว่าทารกเสียชีวิตเพราะสายพันคอไม่มีมาให้ และไม่มีการลงบันทึกเรื่องการฉีดวัคซีนในสมุดฝากครรภ์
"หนูดูแลลูกในท้องมาได้ 9 เดือน จะได้เห็นหน้าลูกอยู่แล้ว ซึ่งวันนั้นมันควรที่จะเป็นวันดี แต่กลับมากลายเป็นวันที่โชคร้าย ซึ่งเป็นวันสูญเสียทั้งวันที่เจ็บปวดท้องมากที่สุด" น้องคะแนนระบายออกมาทั้งน้ำตา
ขณะเดียวกัน นพ.ธนากร คนเพียร รักษาการ ผอ.รพ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ ได้ชี้แจงว่า เหตุที่เกิดขึ้นทาง รพ. เสียใจมาก ที่ทุกคนไม่ต้องการให้สูญเสีย ที่ รพ.ฉีดวัคซีน ก็มีเจตนาหวังดีทางการแพทย์ผู้ตั้งครรภ์หากเกิน 12 สัปดาห์ ก็สามารถฉีดวัคซีนได้ คนไข้ที่มารอคลอดก็ครบกำหนด 38 สัปดาห์
อย่างไรก็ตาม ในการเสียชีวิตของเด็กในครรภ์ในครั้งนี้ ไม่น่าจะมาจากการฉีดวัคซีนแต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้ ขณะนี้ทาง รพ.กำลังอยู่ในขั้นตอนพิสูจน์ จากคณะกรรมการระดับเขต ลงความเห็น ว่าการเสียชีวิตของทารกในครั้งนี้มาจากการฉีดวัคซีนหรือไม่
ภาพจาก คะแนน พัชราพร พุทธรักษา
ขอบคุณข้อมูลจาก Tnews