สืบเนื่องจากกรณีที่เพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 2 ได้โพสต์ภาพ พร้อมทั้งตั้งข้อสงสัย เพื่ออยากจะให้ เจ้าคณะอำเภอ จว.สงขลา หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ หลังจากมีภาพ พระอยู่กับสีกา ในบ้านพักหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 1 ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งหลังจากที่ภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็ทำให้ชาวเน็ตต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุดจากการตรวจสอบพบว่า พระสงฆ์รูปดังกล่าวที่อยู่ในภาพนั้นยืนยันว่าเป็นพระจริง ทราบชื่อต่อมาคือ พระมหาสุภักดิ์ ตุ้งโรจน์ อายุ 68 ปี สังกัดวัดเอี่ยมวรนุช กรุงเทพฯ บวชมาตั้งแต่ พ.ศ.2517 แต่ได้ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดไทยเชตะวัน ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย แต่ปัจจุบันมาจำพรรษาอยู่ที่วัดคลองเรียน อ.หาดใหญ่ และเนื่องจากติดสถานการณ์โควิด จึงกลับวัดที่มาเลเซียไม่ได้
ตามรายงานระบุอีกว่า ส่วนหญิงสาวที่ชาวบ้านเห็นว่าอยู่กินกันกับ พระมหาสุภักดิ์ นั้นเป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกันชื่อ น.ส.ณิชกานต์ ตุ้งโรจน์ อายุ 54 ปี เมื่อสอบถามทั้ง 2 คน จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบรายละเอียดทะเบียนราษฎรพบว่าทั้ง 2 คนเป็นพี่น้องกันจริงๆ มีพ่อแม่คนเดียวกัน ซึ่งทางพระมหาสุภักดิ์ได้ระบุอีกว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านของน้องสาวที่กำลังสร้างใหม่ เพื่อให้ญาติพี่น้องซึ่งอยู่ที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี มาพักอาศัยหากมาทำธุรกิจที่ อ.หาดใหญ่ หรือให้พระอาคันตุกะจากมาเลเซียมาพักเมื่อเดินทางมายังประเทศไทย
พระมหาสุภักดิ์ อธิบายต่อไปว่า สาเหตุที่เดินทางมาที่บ้านหลังนี้เป็นประจำ เพราะต้องมาดูแลบ้านที่ยังสร้างไม่เสร็จ รวมทั้งมาเยี่ยมหลานของญาติที่อยู่ในละแวกเดียวกันที่เพิ่งคลอดลูก รวมทั้งให้อาหารสุนัข เมื่อเสร็จธุระแล้วจะกลับไปจำวัดที่วัดคลองเรียนทุกวัน ส่วนกรณีที่มาจำวัดที่บ้านหลังนี้ตอนกลางคืนช่วงที่ลูกหลานเดินทางมาจาก จ.ปัตตานีเท่านั้น ไม่ได้เป็นไปตามที่โซเชียลกล่าวหาว่ามาสร้างบ้านอยู่กับสีกาแต่อย่างใด
ทว่าเพื่อหาข้อยุติในเรื่องนี้ และเพื่อให้เกิดความกระจ่างกับสังคม ทางพระราชวรเวที เจ้าคณะจังหวัดสงขลา ได้ประสานไปยังพระปลัดสุภวัฒ สุวณฺโณ เจ้าคณะตำบลทุ่งตำเสา และพระมหาสันชัย ฐิติฆโร เจ้าอาวาสวัดคลองเรียน ให้เชิญตัว พระมหาสุภักดิ์ เข้าไปสอบสวนข้อเท็จจริงที่สำนักงานเจ้าคณะจังหวัดสงขลา ซึ่งอยู่ที่วัดโคกสมานคุณ
โดย เจ้าคณะจังหวัดสงขลา ได้ตักเตือนพระมหาสุภักดิ์ ว่า พฤติกรรมดังกล่าวเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมที่พระจะไปพักอยู่ที่บ้านกับญาติ เพราะคนที่ไม่รู้จักจะเข้าใจผิดเหมือนที่แชร์กันในโซเชียล พร้อมกับหาข้อสรุปเพื่อยุติปัญหา และข้อครหาที่ชาวบ้านอาจจะเข้าใจผิด โดยทางพระราชวรเวที เจ้าคณะจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้สั่งห้ามไม่ให้พระมหาสุภักดิ์ กลับไปที่บ้านญาติหลังนี้อีก หากมีธุระจำเป็นเร่งด่วนให้แจ้งกับเจ้าคณะตำบลทุ่งตำเสาก่อนทุกครั้ง
นอกจากนี้ยังมีข้อสรุปว่า ให้ พระมหาสุภักดิ์ออกจากพื้นที่ จ.สงขลาไปก่อน เพราะไม่ใช่พระที่สังกัดอยู่ที่วัดใน จ.สงขลา และไม่ใช่เจ้าคณะอำเภอตามที่บางสื่อเสนอข่าว เป็นแค่พระอาคันตุกะ โดยให้ออกจากวัดคลองเรียน ไปพักอยู่ที่วัดศรีมหาโพธิ์ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ที่เคยไปจำวัดอยู่มาก่อน ส่วนจะเดินทางออกจากวัดคลองเรียนวันไหนนั้น ทางเจ้าอาวาสวัดคลองเรียนจะดำเนินการต่อไป
อย่างไรก็ตาม ทางพระมหาสุภักดิ์ ยังได้ระบุทิ้งท้ายอีกว่า พร้อมที่จะปฏิบัติตาม และบอกว่าหากสถานการณ์โควิด คลี่คลายจะกลับไปอยู่ที่วัดไทยเชตะวัน มาเลเซีย ทันที พร้อมขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ทำให้คณะสงฆ์จังหวัดสงขลาเสื่อมเสีย เนื่องจากทำให้ชาวบ้านเข้าใจผิด
ขอบคุณข้อมูลจาก Tnews