จากกรณี รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด นายประยุทธ เพชรคุณ กล่าวถึงความคืบหน้าคดี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผกก.โจ้ อดีต ผกก.สภ.นครสวรรค์ กับพวกรวม 7 คน ใช้ถุงพลาสติกดำครอบศีรษะ นายจิระพงศ์ ธนะพัฒน์ หรือมาวิน อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาคดียาเสพติดในเซฟเฮาส์ “บ้านกาแฟ” หลังโรงพักจนเสียชีวิต ว่า หลังจากพนักงานสอบสวนกองปราบปราบ ส่งสำนวนการสอบสวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง ผกก.โจ้กับพวกให้อัยการเมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมาแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการสูงสุดยังไม่มีคำสั่งฟ้องคดี ผกก.โจ้ กับพวกผู้ต้องหาแต่อย่างใด
โดยอัยการสูงสุดพิจารณาสำนวนคดีแล้วมีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนกองปราบปรามไปทำการสอบสวนเพิ่มเติมในบางประเด็น เพื่อให้สำนวนคดีมีความละเอียดรอบครอบครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุด พร้อมกำชับให้พนักงานสอบสวนเร่งส่งผลสอบเพิ่มเติมมาให้อัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาสั่งคดีต่อไป ยืนยันว่าจะสามารถสั่งฟ้องคดีได้ทันก่อนครบกำหนดฝากขังผู้ต้องหาภายในสัปดาห์หน้าอย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ ผกก.โจ้ กับพวก ถูกคณะพนักงานสอบสวน มีความเห็นสมควรสั่งฟ้อง 4 ข้อหา คือ
1. เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
2. เป็นเจ้าพนักงานของรัฐร่วมกันปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
- เนเงิน โพสต์แคปชั่นเคลื่อนไหว ครูเบียร์เข้ามาคอมเม้นต์อย่างไว
- สาวขนหัวลุก พาลูกชาย 3 ขวบ ไปไหว้หลุมศพพ่อ กลับตะโกนกลางสุสาน บอกเห็นคุณตา
- เดือด! หัวโจกทริปน้ำไม่อาบ แถไปเรื่อย สั่งย้าย ต้นสน ไม่ได้ย้ายทั้ง สน.
3. ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย
4. ร่วมกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่นหรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews