จากกรณีเมื่อวันที่ 17 พ.ย. 64 รัศมิ์ ชาลีจันทร์ อดีตทูต ได้โพสต์ผ่านเพจ ทูตนอกแถว The Alternative Ambassador Returns ตั้งคำถามถึงกรณีมีสื่อต่างประเทศเผยแพร่ข่าวนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ไปประเทศเมียนมา ระบุว่า “ทำไมต้องแอบไปพม่าแบบลับๆ ล่อๆ ด้วยครับ? ว่าจะไม่อยากพูดถึงแล้ว แม้จะรู้มาก่อนว่าจะมีการไปเยือนพม่าโดยบุคคลระดับรองนายกรัฐมนตรีของไทยเมื่อวันที่ 15 พ.ย.นี้ เพราะเห็นทำเป็นเรื่องลับๆ ล่อๆ ไม่บอกใคร ก็เลยไม่อยากไปยุ่งด้วย แต่พอเห็นเนื้อข่าวจากสื่อของทางฝั่งพม่าก็คิดว่าเรื่องนี้มันควรเป็นเรื่องที่สาธารณชนควรได้รับรู้”
“จริงอยู่ในอดีตเรื่องทางการทูตหลายเรื่องมักปกปิดเป็นความลับ การเจรจาที่ไม่เปิดเผยให้สาธารณชนได้ทราบ ซึ่งมันก็มีข้อดีในแง่การรักษาแต้มต่อในการเจรจา แต่ทุกวันนี้ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว ปัจจุบันการดำเนินการทางการทูตจำเป็นต้องมีความรับผิดชอบต่อส่วนรวม ซึ่งก็คือประชาชนเจ้าของประเทศมากขึ้นทุกขณะ แม้อาจจะไม่ต้องเปิดเผยทั้งหมดแต่อย่างน้อยต้องอธิบายได้ในเชิงหลักการว่าทำไปเพราะเหตุใด”
“ในเนื้อข่าวที่ปรากฏในสื่อของพม่าที่แนบมานี้มีระบุด้วยว่าฝ่ายไทยไปบริจาคมอบวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับพม่าด้วย ซึ่งตรงนี้ผมคิดว่าสาธารณชนไทยควรมีสิทธิที่จะรู้ว่าฝ่ายไทยเอาวัคซีนจำนวนเท่าใดและชนิดใดไปมอบให้ฝ่ายพม่านะครับ เพราะมันเกี่ยวข้องโดยตรงกับชีวิตของประชาชนไทย และเหตุผลว่าทำไมเราต้องเอาไปให้ทหารพม่า เพราะก็รู้กันอยู่ว่ารัฐบาลทหารพม่าที่เข่นฆ่าประชาชนตนเองทุกเมื่อเชื่อวัน คงไม่น่าจะมีแก่ใจจะเอาวัคซีนเหล่านี้ไปช่วยเหลือชาวพม่า”
-ด่วน! อาคารก่อสร้าง มหาวิทยาลัยดังทรุดถล่ม มีผู้บาดเจ็บและติดภายในอาคาร
-กองทัพอากาศแจงแล้ว ควักเงิน 4.6 พันล้าน ซื้อเครื่องบินโจมตีจริง
-หนุ่มร้องไห้ฟูมฟายข้างทาง หลังไก่ชนลูกรักถูกรถชนดับสลด
“และจากเนื้อข่าวนี้ ฝ่ายพม่าเองก็ถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องลับโดยไม่มีการเปิดเผยหัวข้อการหารือ แต่ที่มันตลกคือปกติในพม่านั้นแทบไม่มีสื่อที่อิสระจริง และข่าวที่ออกมาย่อมต้องมีส่วนรู้เห็นจากทางรัฐ ดังนั้นการที่มันเป็นข่าวย่อมไม่สามารถมองเป็นอย่างอื่นได้ นอกจากฝ่ายพม่าต้องการเอาการเยือนของบุคคลระดับสูงของรัฐบาลไทยนี้มาใช้รับรองความชอบธรรมของตนเอง”
“ที่น่าสังเกตุยิ่งขึ้นคือข่าวระบุว่าช่วงนี้มีผู้แทนพิเศษจากทั้งจีนและญี่ปุ่นไปเยือนพม่า ซึ่งที่น่าสังเกตก็คือคำว่า”ผู้แทนพิเศษ” (special envoys) นี่แหละ เพราะนี่ไม่ใช่คนระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หรือระดับผู้นำรัฐบาล ซึ่งแปลว่าประเทศอื่นเขาใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่งในการติดต่อกับรัฐบาลทหารพม่าที่โลกรังเกียจ แม้กระทั่งประเทศที่ปกติไม่ต้องแคร์ใครอย่างจีนนะครับ”
“แล้วไทยเราเป็นอะไรหรือครับ? เพื่อนๆ นักการทูตบางคนก็บอกว่าคงจะกลัวพม่าโกรธเอาที่อาเซียนไม่ยอมเชิญพม่าร่วมการประชุมสุดยอด เลยต้องไปเอาใจเขา แต่ผมเองมองว่าพม่าตอนนี้แทบไม่มีแต้มต่ออะไรเหลือเข้าทุกที เขาน่าจะเป็นฝ่ายเอาใจไทยมากกว่า ที่คนระดับผู้นำรัฐบาลไทยต้องรีบแจ้นไปหา แถมด้วยวัคซีนอีก”
“ผมเห็นแล้วก็ว่าแปลกดีแท้ และก็คิดว่าทางการไทยควรอธิบายให้สาธารณชนได้ทราบมากกว่านี้ ถ้ามันเป็นสิ่งถูกที่ควรก็ต้องอธิบายได้ นอกจากจะรู้ดีอยู่แก่ใจแต่แรกว่ามันไม่ถูก ถึงได้ทำลับๆ ล่อๆ แบบนี้ ผมว่าน่าจะลองหัดทำอะไรให้ประชาชนคนไทยได้ชื่นใจบ้างนะครับ เพราะหกเจ็ดปีมานี้ดูเหมือนแทบไม่มีอะไรสักอย่าง”
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews