จากกรณี ดร.ไมเคิล โวโรบีย์ คณบดีคณะนิเวศวิทยาและชีววิทยาวิวัฒนาการของมหาวิทยาลัยแอริโซนาของสหรัฐฯ กล่าวว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) เข้าใจผิดเกี่ยวกับไทม์ไลน์การระบาดของโควิด-19 และเชื่อว่าคนแรกที่ติดเชื้อคือ "เว่ย กุ้ยเซียน แม่ค้าขายอาหารทะเลที่ตลาดค้าส่งอาหารทะเลฮั่วหนาน ในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ที่ป่วยเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ปี 2562 แต่เข้าใจผิดกันมาโดยตลอดว่า เป็นนักบัญชีซึ่งเป็นชายวัย 41 ปี ที่อยู่ไกลจากตลาดกว่า 30 กิโลเมตร แม้จะมีรายงานว่าเขาเริ่มป่วยเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการของโรค จนกระทั่งวันที่ 16 ธันวาคม และอาการป่วยช่วงเริ่มต้นเกิดจากปัญหาทางทันตกรรม จากการปล่อยฟันน้ำนมไว้จนตัวเองเป็นผู้ใหญ่
เรื่องนี้เป็นหลักฐานที่ยืนยันว่า เขาอาจติดเชื้อหลังไวรัสเริ่มแพร่กระจายจากตลาดแล้ว และเขาอาจติดเชื้อจากโรงพยาบาล ตอนที่ไปรับบริการด้านทันตกรรม หรือบนรถไฟใต้ดินระหว่างการเดินทาง เขายังเดินทางขึ้นไปทางเหนือของตลาดก่อนเริ่มมีอาการด้วย
รายงานที่เผยแพร่ในวารสาร "Science" กระตุ้นให้เกิดการถกเถียงรอบใหม่ถึงต้นตอของโคโรนาไวรัสที่ทำให้เกิดโรคโควิด19 ว่า มาจากตลาดสด หรือเล็ดรอดออกมาจากห้องแล็บที่อู่ฮั่นโดยอุบัติเหตุ และโลกได้รู้จักโรคนี้ เมื่อทางการท้องถิ่นของจีน แจ้งไปยัง WHO ว่า พบผู้ป่วยที่มีอาการติดเชื้อที่ปอด (pneumonia) โดยไม่ทราบสาเหตุ เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม ปี 2562 และตอนนั้นก็โยงกับตลาดอาหารทะเลฮั่วหนาน ที่ขายสัตว์เป็นๆ ด้วย รายงานชิ้นนี้ ได้อ้างอิงบทความในวารสารทางการแพทย์และบทสัมภาษณ์ของสำนักข่าวจีน กับผู้คนที่เชื่อว่ามีเอกสารเกี่ยวกับเคสแรกของไวรัส
ผู้เชี่ยวชาญหลายคน ให้ความเห็นต่อ New York Times ว่า โวโรบีย์ได้ใช้ไทม์ไลน์ในการลำดับเหตุการณ์ ที่เป็นหลักฐานที่แน่นหนา แต่ก็ไม่ได้อธิบายว่า การระบาดเริ่มขึ้นได้อย่างไร ทำให้เหตุการณ์เมื่อเกือบ 2 ปีก่อน ยังคงมืดมน และมีคนจำนวนมากที่เชื่อว่า ต่อให้ต้นตอการระบาดเกิดในตลาดค้าส่งอาหารทะเล แต่ต้นกำเนิดที่แท้จริงของมันน่าจะเป็นห้องแล็บในเมืองเดียวกัน โดยเฉพาะรายงานของ "สำนักงานผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติ" เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2564 ที่เผยแพร่โดย Wall Street Journal ระบุว่า มีนักวิจัย 3 คน ของสถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่น (WIV) ถูกส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2562 ก่อนการระบาดใหญ่ของโควิด-19 จะได้รับเปิดเผย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews