จากกรณีที่ กระทรวงการคลัง เปิดให้ประชาชนลงทะเบียน คนละครึ่งเฟส 3 ซึ่งมีจำนวนสิทธิทั้งหมด 28,000,000 สิทธิ โดยตอนนี้ลงทะเบียนเต็มแล้ว วัตถุประสงค์ของโครงการเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศ บรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชน และช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ร้านค้ารายย่อย เป็นการสนับสนุนเศรษฐกิจฐานรากและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศในองค์รวม โดยรัฐบาลช่วยจ่าย 50%
เงื่อนไขการใช้สิทธิของประชาชน
- รัฐช่วยจ่าย 50% ผู้ได้รับสิทธิจ่ายเอง 50% โดยใช้สิทธิผ่านแอปฯ เป๋าตัง
- จำกัดสิทธิไม่เกิน 150 บาท/วัน โดยที่ยอดรวมการใช้สิทธิ “คนละครึ่ง” จากเดิมจำนวน 3,000 บาท เพิ่มอีก 1,500 บาท ตลอดโครงการ
- ไม่หักสิทธิ หากใช้ไม่หมดในแต่ละวัน โดยระบบจะคืนสิทธิที่ไม่ได้ใช้เข้ายอดรวมของผู้ได้รับสิทธิ และจะคำนวณสิทธิใหม่ในเวลา 6.00 น. ของทุกวัน
- ใช้สิทธิได้ที่ร้านค้าที่ร่วมโครงการฯ เท่านั้น
- ใช้ได้เวลา 06.00 - 23.00 น. ไม่สามารถใช้สิทธิ คนละครึ่ง นอกเวลาดังกล่าวได้
คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ
1. มีบัตรประจำตัวประชาชนและเป็นบุคคลสัญชาติไทย
2. อายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน
3. ประชาชนสามารถเลือกลงทะเบียนได้ 1 โครงการเท่านั้น
4. ไม่เป็นผู้ได้รับสิทธิโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
- สำหรับผู้ได้รับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถตรวจสอบมาตรการสนับสนุนเพิ่มเติมจากภาครัฐฯ ได้ที่ www.cgd.go.th
- ไม่เป็นผู้ได้รับสิทธิโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ (ผ่านบัตรประชาชน) โดยตรวจสอบผู้ได้รับสิทธิผ่านบัตรประชาชนได้จาก www.เราชนะ.com
5.ไม่เป็นผู้ใช้สิทธิโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้
ระยะเวลาใช้จ่าย
- สามารถใช้จ่ายในโครงการคนละครึ่งได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564
ทั้งนี้ จากข้อมูล ณ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2564 โครงการคนละครึ่งเฟส 3 มีผู้ใช้สิทธิสะสมจำนวน 26.15 ล้านราย จากผู้ได้รับสิทธิจำนวน 27.98 ล้านราย โดยมียอดการใช้จ่ายสะสมรวม 172,820 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่ายสะสม 87,808 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 85,012 ล้านบาท และมียอดใช้จ่ายสะสมแบ่งตามประเภทตามร้านค้า ได้แก่ ร้านอาหาร และเครื่องดื่ม 67,773.2 ล้านบาท ร้านธงฟ้า 28,211.8 ล้านบาท ร้าน OTOP 8,368 ล้านบาท ร้านค้าทั่วไป 65,345.9 ล้านบาท ร้านบริการ 2,949.8 ล้านบาท และกิจการขนส่งสาธารณะ 171.3 ล้านบาท