ไทม์ไลน์เงินประกันรายได้ข้าว ธ.ก.ส. โอนเข้าบัญชีวันไหน เช็กรายละเอียด

01 ธันวาคม 2564

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยไทม์ไลน์ ธ.ก.ส. โอนเงินประกันรายได้ข้าวให้ชาวนา เช็กรายละเอียดเงินเข้าบัญชีวันไหน

วันที่ 1 ธ.ค. 64 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงขั้นตอนการดำเนินการของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จะได้เร่งรัดโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของพี่น้องเกษตรกรในโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2564/65 หลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติวงเงินสำหรับโครงการประกันรายได้เกษตกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 เพิ่มเติม จำนวน 76,080.95 ล้านบาท วานนี้ (30 พ.ย.) โดย ธ.ก.ส. จะโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของเกษตรกรในโครงการ ฯ ในช่วง 9 - 14 ธ.ค. นี้

 

ไทม์ไลน์เงินประกันรายได้ข้าว ธ.ก.ส. เริ่มโอนเข้าบัญชีวันไหน เช็กรายละเอียด

ธ.ก.ส. เผยขั้นตอนการดำเนินการ ดังนี้

- วันที่ 30 พ.ย. คณะรัฐมนตรีอนุมัติวงเงินเพิ่มเติม

- วันที่ 1 ธ.ค. 64  : ธ.ก.ส. รับแจ้งมติ

- วันที่ 3 ธ.ค. 64 : คณะอนุกรรมการกลั่นกรอง ธ.ก.ส. พิจารณาและคณะกรรมการ ธ.ก.ส. พิจารณา

- วันที่ 7 ธ.ค. 64 : ตรวจสอบข้อมูลเกษตรกรที่ได้รับสิทธิ์

- วันที่ 8 ธ.ค. 64 : เตรียมการโอนเงิน

- วันที่ 9 - 14 ธ.ค. 64 : โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของเกษตรกรตามโครงการ

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า นายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ได้ขอบคุณพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และรัฐบาล หลังจากมติ ครม. อนุมัติการจ่ายเงินจากโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว และโครงการคู่ขนาน ช่วยเหลือชาวนาในส่วนของต้นทุนและปัจจัยการผลิต รวมถึงเมล็ดพันธุ์ข้าว เป็นการยืนยันให้เห็นว่า นายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ได้ตอบรับและใส่ใจความเดือดร้อนของเกษตรกร และเร่งแก้ปัญหาให้พี่น้องชาวนาอย่างเร่งด่วน ซึ่งถูกต้องและถูกใจเกษตรกรด้วย

 

ไทม์ไลน์เงินประกันรายได้ข้าว ธ.ก.ส. เริ่มโอนเข้าบัญชีวันไหน เช็กรายละเอียด


 
ในฐานะประธานบอร์ด นบข. นายกรัฐมนตรี ได้เร่งรัดดำเนินการและเป็นไปตามมติ ของ นบข. ในการช่วยเหลืออุดหนุนรายได้พี่น้องเกษตรกรชาวนา ในโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ในช่วงที่ราคาพืชเกษตรตกต่ำ เพื่อให้มั่นใจว่าเกษตรกรชาวนาไทยจะมีรายได้ที่เหมาะสม สามารถเลี้ยงชีพตนและช่วยครอบครัวได้ ซึ่งหลังจากนี้มีการคาดการณ์ว่าราคาข้าวจะมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อพี่น้องเกษตรที่จะขายข้าวได้ในราคาสูงขึ้น และยังช่วยลดภาระงบประมาณของรัฐในอนาคตในโครงการฯอีกด้วย