จากกรณีที่ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เเละกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้เเถลงข่าววันนี้พบโอมิครอนรายเเรกในไทย โดยผู้ติดเชื้อโอไมครอนเป็นชายอเมริกัน อายุ 35 ปีไม่มีโรคประจำตัว เเละติดเชื้อไม่มีอาการ พร้อมกันนี้ นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ยังได้ปฎิเสธข่าวลือพบผู้ป่วย ที่ติดเชื้อโควิดโอไมครอนรักษาตัวอยู่ที่ สถาบันบำราศนราดูร ไม่เป็นความจริง
สำหรับ โควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน แพร่ได้เร็วกว่าสายพันธุ์อื่น 2-5 เท่า เปิดอาการผู้ติดเชื้อ โอมิครอน ส่วนใหญ่ไม่มีอาการ หรืออาการน้อยคล้ายไข้หวัดใหญ่ แยกยากจากสายพันธุ์อื่น ทั้งอัลฟา เบตา เดลตา และแกมมา ขอให้คนไทยอย่าตื่นตระหนก
ข้อมูลในต่างประเทศส่วนใหญ่ไม่ต้องเข้ารักษาใน รพ. รายงานขององค์การอนามัยโลก (WHO) ยังไม่มีรายงานติดเชื้อโอไมครอนเสียชีวิต มาตรการป้องกันในส่วนของประเทศไทยนั้น จะต้องฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมมากที่สุด
ทั้งนี้แม้ว่าวัคซีนทุกชนิด จะไม่สามารถป้องกันติดเชื้อได้ 100% แต่สามารถป้องกันการเสียชีวิตและการป่วยหนักได้กว่า 90% รวมถึง ใช้มาตรการป้องกันส่วนบุคคลที่เข้มงวด และVUCA ยกระดับการเฝ้าระวัง ณ ช่องทางเข้าออกประเทศและสถานที่ท่องเที่ยว ทำการสุ่มตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยง และผู้ป่วยไข้หวัดที่เป็นกลุ่มก้อนสอบสวนละเอียดทุกราย และส่งตัวอย่างเชื้อที่พบจากผู้เดินทางหรือรายที่น่าสงสัยตรวจหาสายพันธุ์โอมิครอนที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
ทั้งนี้ เปิดไทม์ไลน์โอมิครอนรายเเรกในไทย ผลการสอบสวนเบื้องต้นผู้ที่ติดโควิด-19สายพันธุ์โอมิครอน เป็นชาย อายุ 35 ปี สัญชาติอเมริกัน อาศัยอยู่ที่สเปนเป็นเวลา 1 ปี อาชีพ นักธุรกิจ ไม่มีโรคประจำตัว ผู้ติดเชื้อไม่มีอาการ
ได้รับวัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน 1 เข็ม จากประเทศอเมริกาเมื่อวันที่ 28 มิ.ย.2564
เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2564 มีการตรวจRT-PCR ที่สเปน ผลไม่พบเชื้อ หลังจากนั้นไปทานข้าวกับเพื่อน(เพื่อนไม่มีอาการป่วยจนถึงปัจจุบัน)
-วันที่ 29 พ.ย. บินจากสเปนไปดูไบ พักที่ดูไบ 9 ชั่วโมง ไม่ได้พูดคุยกับใคร สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
-วันที่ 30 พ.ย. บินจากดูไบมากรุงเทพฯ หลังจากลงเครื่องช่วงเที่ยงคืนไปเก็บตัวอย่างแบบDrive thru ที่รพ.คู่สัญญา และกลับเข้าโรงแรม
-วันที่ 1 ธ.ค. ได้รับแจ้งจากรพ.ว่าตรวจพบเชื้อ เข้ารับการรักษาในรพ.แห่งหนึ่งอาการน้อยมาก ไม่มีอาการ
-และวันที่ 3 ธ.ค. ส่งตัวอย่างเชื้อตรวจยืนยันที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews