จากกรณี นางนัยน์ปพร เนตรบุตร หรือ เจ๊กั้ง วัย 49 ปี และนายศราวุธ บุญคง หรือ อ้วน ถูกตำรวจจับกุมข้อหาทำร้ายร่างกายน้องฟ้าจนน่วม ซึ่งทางเจ๊กั้งออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาแต่ยอมรับว่ามีตีบ้างตามประสาเพราะน้องฟ้าดื้อ ชอบขโมยของในบ้าน มีพฤติกรรมในเชิงชู้สาว จึงต้องลงโทษเพื่อให้หลาบจำจะได้ไม่ทำอีก
ล่าสุด ทนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายที่จะมาดูแลคดีดังกล่าว ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า ...."ในการประชุม สหวิชาชีพ เพื่อคัดกรอง และลงมติโดยมี ตัวแทนสำนักงานอัยการจังหวัด พมจ.สิงห์บุรี กระทรวงแรงงาน พนักงานสอบสวน ผู้เสียหาย และทนายความร่วมประชุมกันโดยที่ประชุม มีมิติ ว่า การกระทำของนายจ้างโหด เข้าข่าย บังคับใช้แรงงาน ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติ ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ซึ่งพนักงานสอบสวน จะได้รวบรวมหลักฐาน และแจ้งข้อหาเพิ่มเติมนอกเหนือจาก ข้อหาทำร้ายผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส
ในส่วนนี้ผมจะเป็นทนายความน้องฟ้า เข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการและเรียกค่าสินไหมทดแทนต่อไป แต่ที่เลวร้ายกว่านั้น ผู้หญิงคนนี้ จิตใจโหดเหี้ยม เกินมนุษย์ ทั้งวางแผน ให้น้องฟ้า จดทะเบียนประกอบกิจการ แทนตนเองและให้น้องฟ้า เปิดบัญชีกระแสรายวัน พร้อมเซ็นเช็ค ไว้ล่วงหน้าหลายแผ่นซึ่งถ้าหาก เช็คที่น้องฟ้าเซ็นไว้ ต่อมาทางธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินและเช็คเด้งน้องฟ้าเอง ก็อาจจะถูกดำเนินคดีอาญา ตาม พ.ร.บเช็ค ซึ่งผู้หญิงคนนี้วางแผน ให้น้องฟ้า ต้องรับผิดทางอาญา แทนตนมาโดยตลอด จิตใจทำด้วยอะไร"
ด้าน เจ๊กั้ง ให้สัมภาษณ์ว่า "อยากขอโทษค่ะ จากใจจริง ให้กราบก็ยอมค่ะ อโหสิกรรม ซึ่งกันและกัน ไม่จองเวร พี่ก็ไม่เคยทิ้งเค้า 15 ปี ไม่เคยทิ้ง รักผูกพันกับเค้า"