ในปีส่งท้ายปี 2564 เพื่อต้อนรับปี 2565 นี้หลายคนต่างตั้งหน้าตั้งตารอว่า จะได้ทำการเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าหรือไม่ เนื่องด้วยสถานการโควิด จึงทำให้คนไทยต้องอดฉลองงานปีใหม่มาแล้ว และล่าสุด ศบค.ได้ไฟเขียวให้ทุกพื้นที่สามารถเปิดบริการและดื่มสุราได้ในคืนวันที่ 31 ธ.ค. 64 - 1 ม.ค. 65 แต่ต้องไม่เกิน 01.00 น. และมีข้อแม้ไปยังร้านค้าอีกด้วย
ทางด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ครั้งที่ 20/2564 เห็นชอบเพิ่ม จ.ชลบุรี เป็นพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวทั้งจังหวัด รวมพื้นที่สีฟ้า 8 จังหวัด
นอกจากนี้ยังเห็นชอบให้ทุกพื้นที่เปิดบริการและดื่มสุราได้ในคืนวันที่ 31 ธ.ค. 64 - 1 ม.ค. 65 ได้ไม่เกิน 01.00 น. แต่ต้องเฉพาะร้านที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก มาตรการจัดงานปีใหม่ตั้งแต่ 1,000 คน ขึ้นไป ผู้ร่วมงานต้องฉีดวัคซีน 2 เข็ม + ตรวจ ATK ขณะที่การเข้าประเทศด้วยระบบ Sandbox และแบบกักตัว (Quarantine Facilities) ทุกช่องทาง ต้องกักตัว 7 วัน
โดย นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญว่า นายกรัฐมนตรีติดตามสถานการณ์การกลายพันธุ์ของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งแพร่ระบาดไปแล้วมากกว่า 54 ประเทศ โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามและศึกษาทั้งอาการและความรุนแรงของโรครวมถึงประสิทธิภาพของวัคซีนและยาต่อเชื้อ รวมไปถึงแนวทางปฏิบัติของประเทศต่างๆ
รวมทั้งเตรียมความพร้อมทั้งวัคซีน ยา เวชภัณฑ์ เตียงผู้ป่วย เป็นต้น รวมทั้งกำชับการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน จากผู้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย เน้นการตรวจคัดกรองและการสอบสวนโรคให้เข้มงวดขึ้น สกัดกั้นควบคุมดูแลการเดินทาง เข้า - ออกประเทศ ตามแนวชายแดน และช่องทางธรรมชาติอย่างเข้มงวด
อีกทั้งยังรวมไปถึงให้มีการสุ่มตรวจสถานประกอบการ สถานบริการ และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ว่าได้ปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting และการป้องกันแบบครอบจักรวาล Universal Prevention อย่างเคร่งครัดด้วย
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียินดีที่หลายประเทศนำระบบการเปิดประเทศแบบปลอดภัยของไทย Test and Go เป็นต้นแบบที่เน้นป้องกันการแพร่เชื้อในประเทศ ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวและประเทศต้นทาง ที่ผ่านมาหลายประเทศชื่นชมความสำเร็จในการเปิดประเทศของไทย โดยที่สามารถควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ลดน้อยลงด้วย
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวขอบคุณทั้งฝ่ายนโยบายและปฏิบัติ รวมทั้งคนไทยทุกคน และมั่นใจว่าทุกมาตรการ/กิจกรรมต่างๆ สามารถเป็นไปได้ หากทุกคนร่วมกันปฏิบัติตามข้อกำหนดและมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ซึ่งหลังจาก ศบค. ได้ออกข้อกำหนดให้มีการจัดงานเทศกาลปีใหม่และสวดมนต์ข้ามปีแล้ว ก็จะให้ศึกษาประสิทธิภาพของมาตรการต่างๆ สำหรับใช้ในงานเทศกาลอื่นๆ เช่น สงกรานต์ ต่อไป
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังย้ำถึงการเร่งฉีดวัคซีนให้ครบอย่างน้อย 2 เข็ม ซึ่งสามารถป้องกันอาการรุนแรงจากไวรัสโควิด ได้ทุกสายพันธุ์ พร้อมฝากเชิญชวนประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย 608 เข้ารับการฉีดวัคซีนโดยเร็ว เพื่อร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ด้วยความปลอดภัย ทั้งนี้ ที่ประชุม ศบค. มีมติเห็นชอบการปรับพื้นที่ การจัดงานเทศกาลปีใหม่และการสวดมนต์ข้ามปี และการเข้า-ออกประเทศ ดังนี้
1. เห็นชอบการปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร
-พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุด และพื้นที่เฝ้าระวัง 0 จังหวัด
-พื้นที่ควบคุม 39 จังหวัด/พื้นที่เฝ้าระวังสูง 30 จังหวัด/และพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว 8 จังหวัด โดยมีพื้นที่นำร่องบางพื้นที่ในจังหวัด 18 จังหวัด โดยเพิ่ม จ. ชลบุรีเป็นพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวทั้งจังหวัด
2. เห็นชอบการปรับมาตรการเข้าราชอาณาจักร
- การพำนักในพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว (Sandbox Programme) และการเข้ากักตัว (Quarantine Facilities) ต้องมีระยะเวลาพำนัก/กักตัว 7 วัน
- การปรับการตรวจหาเชื้อสำหรับ Test and Go และ พื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว (Sandbox Programme) เป็น RT–PCR ครั้งที่ 1 และยังคงตรวจ ATK ด้วยตนเองครั้งที่ 2
2.1 ปรับกลุ่มประเภทผู้เดินทาง 6 กลุ่ม และกลุ่มประเทศ 4 กลุ่ม ดังนี้
-จำแนกประเภท รูปแบบและเงื่อนไขการเดินทาง - 6 กลุ่ม : ได้แก่ 1) Test and Go 2) Sandbox 3) กักตัว 4) ผู้ขนส่งสินค้า ทางบก/เรือ 5) ผู้ควบคุมยานพาหนะ หรือเจ้าหน้าที่ประจำยานพาหนะ 6) ผู้มีเหตุยกเว้น หรือได้รับอนุญาตตามเงื่อนไขเฉพาะ และประเทศต้นทาง 4 กลุ่ม คือ 1) กลุ่มประเทศTest and Go (จำนวน 63 ประเทศ/พื้นที่) 2) กลุ่มทุกประเทศ 3) กลุ่มประเทศเสี่ยงต่ำ (มาจากประเทศในทวีปแอฟริกาไม่รวม 8 ประเทศ หรือ เคยพำนักในช่วง 21 วันก่อนเดินทาง ได้แก่ Botswana /Eswatini Lesotho Malawi Mozambique Namibia South Africa และ Zimbabwe 4) กลุ่มประเทศเสี่ยงสูง
3. เห็นชอบการปรับมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ในการจัดงานช่วงเทศกาลปีใหม่
- พื้นที่ควบคุม พื้นที่เฝ้าระวังสูง พื้นที่เฝ้าระวังและพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว สามารถเปิดบริการและบริโภคสุรา ในคืนวันที่ 31 ธ.ค. 64 - 1 ม.ค. 65 ได้ไม่เกิน 01.00 น ได้เฉพาะร้านที่เปิดโล่ง อากาศถ่ายเทสะดวกเท่านั้น ทั้งนี้ เคร่งครัดมาตรการป้องกันควบคุมโรคที่สาธารณสุขกำหนด (COVID Free Setting)
- มาตรการฯ สำหรับการจัดงานตั้งแต่ 1,000 คนขึ้นไป โดยผู้จัดงานปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด ต้องลงทะเบียนและทำการประเมินตนเองผ่านแพลตฟอร์ม Thai Stop COVID 2Plus (TSC 2+) และควบคุมกำกับให้พนักงานประเมินตนเองผ่าน Thai Save Thai (TST) พร้อมยกระดับ COVID Free Customer และ COVID Free Environment ผู้เข้าร่วมต้องฉีดวัคซีน 2 เข็มและมีการตรวจหาเชื้อด้วย ATK (ต่ำกว่า 1,000 คน ดำเนินการตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุขที่กำหนดไว้แล้ว)
- กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี
ส่วนกลาง วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม วันที่ 31 ธ.ค. 64 เวลา 22.30 น. กิจกรรมประกอบไปด้วย เจริญจิตตภาวนา และสวดมนต์ส่งท้ายปีเก่า และวัดอรุณราชวราราม วันที่ 31 ธ.ค. 64 เวลา 23.30 น. กิจกรรมประกอบไปด้วย เจริญจิตตภาวนา สวดมนต์ส่งท้ายปีเก่า วันที่ 1 ม.ค. 65 เวลา 07.00 น. กิจกรรมประกอบไปด้วย ทำบุญตักบาตรรับปีใหม่
อย่างไรก็ตาม สำหรับส่วนภูมิภาค สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี อย่างน้อยจังหวัดละ 1 แห่ง และกิจกรรมพิเศษที่จัดขึ้นใน 3 ภูมิภาค ภาคเหนือ จ.เชียงราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.อุดรธานี และภาคใต้ จ.สุราษฎร์ธานี ส่งเสริมบูรณาการความร่วมมือทางศาสนา ส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่นในพื้นที่ และส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยวในมิติศาสนา
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews