วันที่ 15 ธ.ค.2564 ที่กรมราชทัณฑ์ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ประชุมหารือร่วมกับผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ โดยมี นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ เข้าร่วมประชุม โดยมีการพูดถึงกรณีนักโทษ 9 คนแหกคุกที่นครปฐม ซึ่งตอนนี้จับตัวได้ครบหมดแล้ว เผยจ่อเอาผิดเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และมีส่วนรู้เห็นให้นักโทษหลบหนี ซึ่งขณะนี้มีถูกให้ออกจากราชการแล้ว 1 คน
โดยทางด้าน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ได้กล่าวในตอนต้นว่า ตนขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกคน ตนรู้ว่าทุกคนเหนื่อยและทำงานอย่างหนักมาตลอด แต่ขอให้เดินหน้าทำงานต่อไป ทำงานให้เต็มที่ หากมีปัญหาอะไรให้ชี้แจงตามหลักการและเหตุผล ในส่วนของเรื่องผู้ต้องขังหลบหนีออกจากเรือนจำ ซึ่งช่วงหลังมีมากกว่าแต่ก่อน ซึ่งไม่มีการหลบหนีออกจากแดนใน แต่เป็นการหลบหนีจากแดนกักโรค อาจจะเกิดจากห้องกักโรคไม่แข็งแรงพอ และเวรยามของเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอหรือไม่ เราต้องพิจารณากันดูว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง
ทั้งนี้นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า โดยล่าสุดผู้ต้องขังที่หลบหนีจากเรือนจำชั่วคราวทุ่งน้อย จ.นครปฐม ทั้ง 9 รายสามารถจับตัวได้ครบแล้ว จากนี้ให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนผู้เกี่ยวข้องและผู้พาหลบหนี หากมีเจ้าหน้าที่ไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการอำนวยความสะดวกให้ผู้ต้องขังหลบหนี ต้องถูกลงโทษอย่างหนัก หากเป็นข้าราชการให้ออกจากราชการและดำเนินคดี โดยขณะนี้มีให้ออกจากราชการแล้ว 1 คน ซึ่งจะสอบสวนเพิ่มว่ามีใครเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ ตนจะไม่ปล่อยให้คนพวกนี้ทำลายองค์กรของตัวเอง
ด้าน นายอายุตม์ กล่าวว่า ในเรือนจำไม่มีนักโทษแหกคุก คนที่หนีเป็นผู้ต้องขังเข้าใหม่ โดยแยกกักโรคก่อนเข้าสู่แดนแรกรับ ซึ่งเป็นกระบวนการในการป้องกันโรคเข้าไปแพร่ระบาดภายในเรือนจำ คนที่หลบหนีแม้ว่าคดีไม่ได้ร้ายแรง แต่จะเสียสิทธิในการจัดชั้นนักโทษด้วย ขณะนี้เราได้ตั้งกรรมการสอบสวนแล้ว โดยถือว่าเป็นกรณีร้ายแรง ซึ่งผู้ให้การสนับสนุนในการหลบหนีไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่หรือผู้ต้องขัง ผู้พาหลบหนีที่เป็นญาติ เราจะดำเนินคดีทั้งหมด