เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 64 นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ได้แถลงภายหลังการหารือร่วมกับสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และ สมาพันธ์เครือข่ายคนบันเทิง ในรายละเอียดมาตราการเยียวยาผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ที่ประกอบอาชีพนักร้อง นักดนตรีกลางคืน ฯลฯ โดยระบุว่า
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน จะนำเรื่องเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 21 ธ.ค.นี้ จากนั้นเริ่มจ่ายเงินเยียวยาในวันที่ 29 ธ.ค. 2564 ในอัตรารายละ 5,000 บาท 1 เดือน ผ่านบัญชีธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ ซึ่งเบื้องต้นมีคนที่เข้าข่ายได้รับการเยียวยาประมาณ 1.2 แสนราย และโครงการฯจะเยียวยาเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2565 ซึ่งจะเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับพี่น้องผู้ประกันตนที่ทำงานเกี่ยวกับสถานบันเทิง โดยการเยียวยาจะจ่ายเงินรอบเดียว เนื่องจากประเมินปัญหาโควิดไม่น่ามีผลกระทบไปมากกว่านี้ อย่างไรก็ตามคงต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป
ด้าน นางสุดา ชื่นบาน อุปนายกสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า สำหรับผู้ที่ได้รับการเยียวยาต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ทำงานในกิจการสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ส่วนผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และมาตรา 40 ต้องได้รับการรับรองจากสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือสมาพันธ์เครือข่ายคนบันเทิงที่จดทะเบียนกับกระทรวงมหาดไทย หรือกรมพัฒนาธุรกิจการค้าให้การรับรองภายในวันที่ 14 ม.ค. 2565
สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้สมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ให้รีบสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 พร้อมรีบชำระเงินสมทบให้ทันภายในวันที่ 14 ม.ค. 2565 และให้ทางสมาคมฯดังกล่าวข้างต้น เป็นผู้เซ็นรับรองภายในวันที่ 28 ม.ค. 2565 ว่าเป็นนักดนตรีจริงๆ โดยในขณะนี้สมาคมฯ มียอดสมาชิกอยู่จำนวน 100,000 คน และไม่เพียงแค่นักร้อง นักดนตรีเท่านั้น ยังรวมถึงศิลปะการแสดงอื่นๆ ด้วยไม่ว่าจะเป็น ลิเก หรือ ตลก ก็สามารถเข้ามาขอการรับรองเพื่อขอรับการเยียวยา รวมทั้งผู้ที่ขาดส่งเงินสมทบประกันสังคมมาตรา 40 ยังสามารถยื่นเรื่องได้เช่นกัน ส่วนคนที่อายุเกิน 65 ปีซึ่งไม่เข้าข่ายได้รับการเยียวยาจากสำนักงานประกันสังคม ทางสมาคมฯจะรวบรวมรายชื่อส่งให้กระทรวงวัฒนธรรมเป็นผู้ดูแลต่อไป