จากกรณีดราม่าร้อนบนโลกออนไลน์จนติดติดเทรนด์ทวิตเตอร์ในตอนนี้ สำหรับ พิมรี่พาย หรือ น.ส.พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ แม่ค้าและยูทูปเบอร์ชื่อดัง พร้อม นายพงษ์พันธ์ เล้าสุวรรณ ทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.มนสิช ชุนดี รอง ผกก.(สอบสวน) กก.4 บก.ปคบ. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่แอบอ้างเป็นแพทย์เสริมความงาม มาสมัครงานที่คลินิค EST CUTE CLINIC (อิส คิวท์ คลินิก) โดยนำหลักฐานจากแพทยสภาและสำเนาบัตรประชาชน ซึ่งเป็นชื่อของแพทย์ตัวจริงมาแอบอ้าง
สำหรับพิมรี่พาย มาแจ้งความร้องทุกข์กรณีที่ตนถูกบุคคลแอบอ้างเป็นแพทย์มาสมัครงานที่คลินิคโดยใช้ใบประกอบวิชาชีพแพทย์และสำเนาบัตรประชาชนของแพทย์ตัวจริง ซึ่งทั้งในวันที่มาสมัครงานและขณะทำงานแพทย์ตัวปลอมคนนี้ได้ใส่แมสปิดบังใบหน้า ใช้ผ้าคลุมหัว แต่งตัวมิดชิด ทำงานเป็นครั้งคราว ไม่ได้เป็นพนักงานประจำ จนกระทั่งวันนี้ เวลาประมาณ 17.00 น. แพทย์ตัวจริงได้เข้ามาแสดงตัวว่าอยู่ต่างประเทศ และไม่เคยทำงานที่คลินิคของตน ตอนแรกก็ตกใจว่าเป็นไปได้ไง จึงให้ทีมงานตรวจสอบจนความแตก เพราะติดต่อคนที่แอบอ้างว่าเป็นแพทย์ไม่ได้ ปรากฎว่าปิดเครื่อง หลังทราบเรื่องก็ได้มีการตรวจสอบแพทย์ที่ทำงานให้คลินิค พบว่าแพทย์ปลอมมีคนนี้เพียงคนเดียว ตนจึงมาแจ้งความ เพราะนิ่งนอนใจไม่ได้ และกำลังรวบรวมเคสต่างๆ ที่แพทย์ปลอมรายนี้ทำการรักษาให้กับลูกค้า เพื่อรวบรวมเป็นพยานหลักฐานให้แก่พนักงานสอบสวน ขอยืนยันว่าจะรับผิดชอบทุกอย่างที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ จะทำหนังสือและกราบขอโทษคุณหมอตัวจริงที่ทำให้เสียหาย และขอโทษลูกค้าที่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า บุคคลที่แอบอ้างเป็นแพทย์รายนี้ มีการทำเคสให้ลูกค้าแล้วเกิดปัญหาขึ้นหรือไม่ พิมรี่พาย กล่าวว่า ในการสมัครงานแพทย์ปลอมรายนี้อ้างว่าทำงานกับคลินิคทุกที่ที่มีชื่อเสียง ตนก็ไม่คิดว่าจะมีคนกล้าแอบอ้างคลินิกใหญ่ๆหลายแห่งขนาดนี้ ทำให้เรารู้สึกตายใจ ตลอดเวลาที่ผ่านมา ก็มีการแอบอ้างว่าติดเคสที่นั่นที่นี่ขอเข้าสาย ส่วนตัวตนเชื่อว่ามีการสวมชื่อแพทย์คนนี้มานานแล้ว และมีการไปหลอกที่คลินิกอื่นๆด้วย เพราะมีการแอบอ้างคลินิกอื่นๆเยอะมาก
-"พิมรี่พาย" ลั่นคนทำผิดต้องติดคุก พร้อมกราบขอโทษคุณหมอตัวจริง
-พิมรี่พาย โร่แจ้งความด่วน เจอหมอเก๊ แอบอ้าง ทำเสียชื่อคลินิก
-หมอดังแฉ ถูกเอาชื่อไปแอบอ้าง ไม่เคยทำงานที่อิส คิวท์ คลินิก ของพิมรี่พาย
เมื่อถามว่าเป็นการดิสเครดิตทางธุรกิจหรือไม่ พิมรี่พาย ตอบว่า ตนไม่คิดโทษใคร เป็นเรื่องของตนเองที่ต้องรับผิดชอบแทนลูกน้องทั้งหมด ในฐานะที่เราเป็นพิมรี่พาย จะปล่อยให้ลูกค้าโดนกระทำแบบนี้ไม่ได้
สืบเนื่องจากกรณีดังกล่าวนั้น ไทยนิวส์ออนไลน์อัพเดทล่าสุดจะพาไปเจาะลึกความเห็นของคุณหมอที่เป็นผู้เชียวชาญเกี่ยวกับการศัลยกรรม ซึ่งต้องบอกว่าเห็นพ้องไปในทางเดียวกันก็หมดเลยก็ว่าได้ โดยทางไทยนิวส์จะพาไปเริ่มกันที่ นพ.เกรียงไกร อ่าวอุดมพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์เอสเตลล่า คลินิก และผู้อำนวยการศูนย์ออกแบบรูปร่างใบหน้านานาชาติ ได้ให้ความเห็นไว้อย่างน่าสนใจ โดยระบุว่า
ว่าจะไม่พูดเรื่องนี้ล่ะ แต่มีคน DM เข้ามาเยอะเกิน งั้นขออธิบายแบบกลางๆ ให้ให้ได้อ่านกันนะครับ ดราม่า influencer คนหนึ่ง ที่เปิดคลินิกขายคอร์ส กันจนเป็นดราม่าใหญ่โตขนาดนี้ ขอสรุปให้ฟังแบบกลางๆทีละประเด็นนะครับ FC หรือ ติ่งนาง กองเชียร์ ก็ควรเชียร์อย่างมีสติ ไม่ใช่หลับหูหลับตาเชียร์ จนไม่คิดนะครับ ผมห่วงผู้บริโภคมากกว่า
1.เปิดคลินิกมานาน การตรวจสอบแพทย์ เป็นเรื่องที่จำเป็นมาก ไม่ใช่เรื่องที่ควรจะพลาดเลย เพราะมีวิธีการตรวจสอบ หลายวิธีมาก ต่อให้อ้างว่าไม่รู้ แต่ความผิดในฐานะผู้ประกอบการก็ควรโดนลงโทษ
2.การ live ขายคอร์สความงาม โดยโชว์ยา กล่องยา และสรรพคุณต่างๆ ผิด พรบ. การโฆษณา ครับ อันนี้ชัดเจน อาจมีข้อยกเว้นในกรณีให้ความรู้ต่างๆ
3.ยาบางตัว ที่มีคน capture ส่งมาให้ผมดู มันไม่มี อย. นะครับ อันตราย
4.การสั่ง ซื้อยา และเครื่องมือแพทย์ต่างๆ ต้องทำการสั่งซื้อ ผ่านบริษัทที่นำเข้าอย่างถูกกฎหมายเท่านั้น ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลย ที่จะสั่งยาแท้จากเอเจนซี่ต่างๆได้ เพราะบริษัทที่นำเข้าก็ยืนยันว่า เค้าไม่มีเอเจนซี่ และการสั่งซื้อยาต่างๆนั้น ต้องประกอบไปด้วยเอกสารต่างๆมากมาย เช่น ใบประกอบโรคศิลปะของแพทย์ เลขที่การจดทะเบียนคลินิก เลขที่ใบอนุญาตคลินิก
ซึ่งการสั่งซื้อ ต้องประกอบด้วยเอกสารเหล่านี้ถึงสั่งซื้อได้ ถ้าไม่มีก็ซื้อไม่ได้ มันไม่เหมือนซื้อยาตามร้านขายนะครับ ที่จะซื้อได้แบบง่ายๆ
5.ท่องไว้ให้ขึ้นใจ ยาหิ้ว = ยาปลอม
6. จากราคาที่ทำคอร์สมา ผมอยู่ในวงการนี้มา 15 ปี
ผมบอกได้เลยครับ ราคาต้นทุนยังไม่ได้เลย ดังนั้น ผมเลยคิดว่า ถ้าไม่ได้ใช้ยาที่ไม่ได้มาตรฐาน ก็อาจจะได้รับ ยาต่างๆ ไม่ครบตามปริมาณ ที่บอกไว้
7. ที่ผมตั้งข้อสงสัยคือ ทำไมไม่สั่งยาจากบริษัท ที่นำเข้าอย่างถูกกฎหมาย เพราะว่า สามารถนำใบสั่งซื้อ ไปหักภาษีค่าใช้จ่ายได้ มากกว่าการที่จะซื้อจาก Agency
ที่ไม่สามารถนำใบสั่งซื้อไปหักภาษีได้ และอีกอย่างที่ผมเชื่อคือ สั่งจากบริษัทโดยตรง มันน่าจะได้ราคาที่ถูกกว่า Agency ด้วยซ้ำไป สงสัยเหมือนผมไหมครับ หรืออาจมีอะไรมากกว่านั้น
8. ที่เหลือ คงเป็นเรื่องความพอใจของแต่ละคน ว่าจะไปใช้บริการหรือไม่ แต่ฝากให้คิดสักนิด ถ้ายังรักชีวิตอยู่ อย่าเอาชีวิตไปเสี่ยง กับของที่ไม่ได้คุณภาพเลย หัดตรวจสอบด้วยตัวคุณเองทั้งชื่อคลินิก
ชื่อแพทย์ และขอดูกล่องและบรรจุภัณฑ์ของเวชภัณฑ์ ก่อนทำหัตถการทุกครั้ง เพราะทุกวันนี้ มือถือเครื่องเดียว ก็สามารถตรวจสอบได้ทั้งหมดแล้ว
ช่วงคุณหมออีกรายซึ่งถือว่าให้ความเห็นไว้อย่างดุเด็ดเผ็ดมัน สำหรับ หมอของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ แพทย์ผิวหนังคนดัง ได้ให้ความเห็นเรื่องดังกล่าวไว้ว่า Absolutely Agree พิมรี่พายบางครั้งเพื่อนจะขายทุกอย่างไม่ได้...
ส่วนคุณหมออีกรายซึ่งถือว่าให้ความเห็นไว้อย่างดุเด็ดเผ็ดมัน สำหรับ หมอของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ แพทย์ผิวหนังคนดัง ได้ให้ความเห็นเรื่องดังกล่าวไว้ว่า Absolutely Agree พิมรี่พายบางครั้งเพื่อนจะขายทุกอย่างไม่ได้...
1 ยาและเวชภัณฑ์ทุกอย่างไม่เหมือนขนม ไม่เหมือนน้ำหอมมันต้องมีมาตรฐาน
2 หมอถ้าเป็นหมอปลอมนี่ยิ่งแล้วใหญ่ ถ้าทุกคนครูพักลักจำมาได้ หมอต้อง สอบเข้าโคตรยากคะแนนสูงมาก และยังต้องเรียนหมอเป็น 6 ปีมั้ย เฉพาะทางอีกกี่ปี....ถามก่อน สภาพพพ
ส่วนเรื่องหมอปลอมโชคดีของ พิมรี่พาย นะที่ยังไม่มีใคร เป็นอะไร ถ้ามีจะรับผิดชอบไหวไหม เรื่องยาและเวชภัณฑ์ที่ถูกเกินจริงราคาถูกเกินจริงบอกว่าซื้อจาก Agency อันนี้ไม่โอเค เกิดฉีดเข้าไป Botox ใต้ดินหิ้วมา ขนส่งเก็บมาอุณหภูมิผิดเชื้อตาย แล้วมาฉีดมันใช่ไหมกับการที่เอาชีวิตคนไปเสี่ยง
ชอบส่วนชอบ เหตุผลส่วนเหตุผล ความถูกต้องส่วนความถูกต้องนะคะ ผิดก็ว่าไปตามผิด ถ้าไม่อย่างนั้น #หมอต้องเรียนหมอไหมคะ ของบางอย่าง มันไม่ใช่ว่าจะขายได้ทุกอย่างไม่งั้นมันจะมีคำว่า "Specialist" ทำไม #พิมรี่พาย #พิมรี่พายจะขายทุกอย่างไม่ได้ ไม่ได้จะแซะขายของ ไม่ได้ซ้ำ พรพ นะแต่ที่หมอที่โพสเยอะเพราะ...นี่คือสิ่งที่หมอ "เชี่ยวชาญ"โดยตรง
ขนาดไวรัส วัคซีน หมอไม่ได้เชี่ยวชาญ...หมอยังโพสมากกว่านี้มั้ย??? ถามก่อน แต่ใดๆคือนับถือใจพิมรี่พายนะคะที่นางแสดงความรับผิดชอบ รู้จักยอมรับ รู้จักขอโทษ...ปรบมือ