จากกรณีที่เมื่อวานนี้ 16 ธ.ค. 64 พิมรี่พาย แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่แอบอ้างเป็นแพทย์เสริมความงาม มาสมัครงานที่คลินิค EST CUTE CLINIC (อิส คิวท์ คลินิก) โดยนำหลักฐานจากแพทยสภาและสำเนาบัตรประชาชน ซึ่งเป็นชื่อของแพทย์ตัวจริงมาแอบอ้าง
ข่าวล่าสุดนั้น พิมรี่พาย ได้ไลฟ์ผ่านเพจอิส คิวท์ คลินิก ถึงเรื่องการตามล่าตัวหมอปลอมคนดังกล่าว ยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด พร้อมทั้งตั้งรางวัลนำจับ 100,000 บาท สำหรับใครที่พบเห็นหมอปลอมคนดังกล่าวแล้วแจ้งเบาะแสมาได้เลย
โดยวันนี้ 17 ธ.ค. 64 ทางเจ้าหน้าที่กองกฎหมาย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข หรือ ส.บ.ส. ลงพื้นที่ตรวจสอบ "อิส คิวท์ คลีนิก" สาขาห้วยขวาง ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามซอยประชาสงเคราะห์ 40 ซึ่งเป็นคลีนิกของ นางสาวพิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะ หรือ พิมรี่พาย ภายหลังจากพบ แพทย์ปลอมเข้ามาทำงาน และได้เข้าแจ้งความกับ ปคบ.ไปเมื่อวันก่อน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สรุปว่า เป็นการมาตรวจสอบข้อเท็จจริง ทั้งสถานที่ เครื่องมือ อุปกรณ์ และบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งพบว่า ถูกต้องตามกฎหมายทั้งหมด แต่มีแค่เรื่องของการโฆษณาไม่ตรงตามความจริง ที่พบว่าผิดกฎหมาย โดยมีการโฆษณารูปว่ามีห้องผ่าตัด
จากการตรวจสอบพบว่า ไม่ได้มีห้องผ่าตัดอยู่ภายใน จึงต้องมีการดำเนินคดีในส่วนนี้ ซึ่งโทษสูงสุดคือการปรับสถานเดียว หากเป็นนิติบุคคลขั้นต่ำปรับ 50,000บาท และสั่งปรับปรุงแก้ไข ส่วนกรณีหมอเถื่อน เป็นหน้าที่ของ ปคบ.ในการดำเนินคดี ซึ่ง ทาง สบส. และจะทำการตรวจสอบ ตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาลว่า คลีนิกมีส่วนรู้เห็นในการรับหมอเถื่อนเข้ามาหรือไม่อย่างไร และต้องดูว่า ช่วงที่หมอเถื่อนมา ใครมีส่วนรู้เห็นบ้าง รักษาใครไปแล้วบ้าง นั่นจะเป็นผู้เสียหายทั้งหมด
ขณะที่ หมอพี หนึ่งในแพทย์ประจำของคลีนิก ให้สัมภาษณ์ ยืนยันว่า ตัวยาต่างๆที่ฉีดให้ลูกค้าเป็นของ ถูกต้อง ส่วนตัวยอมรับว่า ไม่ได้รู้จัก และไม่เคยพูดคุยกับ หมอปลอมคนดังกล่าว ซึ่งทราบว่าเขามาสมัครงานพาร์ทไทม์ เพราะที่คลีนิกรับหมอพาร์ทไทม์จำนวนมาก พร้อมยืนยันด้วยว่า หากใครที่ใช้บริการกับตนเอง แล้วมีปัญหา ก็พร้อมยินดีที่จะดูแลตามหลักการแพทย์จนกว่าลูกค้าจะพอใจแล้วหายขาด ซึ่งสามารถเข้ามารับบริการได้
โดยจะลัดคิวพิเศษให้ด้วย และขอโทษลูกค้าที่เดินทางมารับบริการที่คลีนิกในวันนี้ด้วย ขอให้ไปใช้บริการที่สาขาชินเขตแทน เนื่องจากที่สาขาห้วยขวาง ยังติดภารกิจในสาขานี้ และจะขอรวบรวมหลักฐานทั้งหมด เพื่อจะเข้าให้การกับพนักงานสอบสวนอีกครั้ง เมื่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับหมอปลอมคนดังกล่าว โดยหมอพีไม่ขอให้ข้อทูลใด ๆ แต่บอกเพียงว่าจะเข้าให้การกับพนักงานสอบสวน
ด้านผู้เข้าใช้บริการรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ตัวเองจองคอร์สโบท็อกซ์ ร้อยไหม และฉีดฟีลเลอร์ รวมประมาณ 1.5 หมื่นบาทผ่านไลฟ์สดขายคอร์สบนเพจ และมีนัดหมายในวันนี้ ตอนแรกเห็นข่าวแจ้งความก็คิดว่าไม่มีปัญหาอะไร เขาน่าจะจัดการได้ เพราะไม่มีแจ้งปิดบริการบนเพจ แต่พอมาถึงวันนี้มีเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ก็ให้เลื่อนนัดออกไปก่อน
ทั้งนี้ แม้ตนไม่เคยใช้บริการที่คลินิกนี้มาก่อน แต่ก็มั่นใจในความน่าเชื่อของพิมรี่พาย และคิดว่าเขาน่าจะรับผิดชอบได้หากมีข้อผิดพลาดใด อย่างไรก็ตาม ด้วยราคาคอร์สที่ถูกนั้น ตนไม่กังวลว่าจะใช้ยาปลอม แต่คาดว่าที่ราคาต่ำ เพราะเขาสามารถหายามาได้เยอะ และตนก็เคยใช้บริการเสริมความงามที่อื่นมาก่อน ก็มีราคาประมาณนี้อยู่เยอะ ส่วนคอร์สที่จองวันนี้ ก็จะรอให้เขาแก้ปัญหาแล้วค่อยกลับมาทำใหม่