จากกรณี วันที่ 12 ธ.ค.2564 ที่ผ่านมา ภาพหน้ารถยนต์ของสิบตำเอกปัญญา จุลฬา ผู้บังคับหมู่งานสืบสวน สน.สายไหม สามารถบันทึกเหตุการณ์รถพ่วง 18 ล้อไหลถอยหลังตกล่องน้ำมามาชนกำแพงปูนบ้านประชาชนพัง ระหว่างขับขึ้นทางลาดชันบนเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ทำให้รถที่ขับตามหลังมาเร่งเครื่องหลบกันเป็นแถว โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับปาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ มีเพียงกำแพงปูนของบ้านชาวบ้านบริเวณนั้นได้รับความเสียหาย
ส.ต.อ.ปัญญา จุลฬา เจ้าของกล้องวงจรปิดหน้ารถ เล่าให้ฟังว่า ขณะเกิดเหตุเป็นช่วงเวลา 10.30 น.ตนกับเพื่อนๆได้ขับรถออกจากที่พักเพื่อจะขับรถขึ้นไปบนเขาใหญ่โดยขับเรียงแถวกันมา 5 คัน รถของตนเองอยู่คันที่ 2 มีรถเพื่อนที่มาด้วยกันขับรถกระบะสีดำอยู่คันหน้า ทันใดนั้นเองพอถึงทาง 3 แยกขึ้นเนินเขาจู่ๆลูกสาววัย 4 ขวบก็ร้องทักว่าพ่อๆนี้มันรถอะไรทำไมคันใหญ่จัง ตนจึงหันไปมอง ปรากฎว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถพ่วง 18 ล้อที่กำลังไหลถอยหลังมาใส่ขบวนรถของกลุ่มพวกตนเองอย่างเร็ว
ในวินาทีนั้นตนรีบบีบแต่ให้รถคันหน้ารู้ตัวเพื่อจะได้เร่งเครื่องหนีไปโชคดีที่รถกระบะคันหน้าเร่งเครื่องหนีลงข้างทางได้อย่างหวุดหวิด ส่วนคันของตนนั้นถอยหลังหนีทันอย่างหวุดหวิดเช่นกันโชคดีที่รถคันหลังที่ขับตามๆกันมาเห็นเหตุการณ์เหมือนกันจึงถอยหลังหลบพร้อมๆกัน จึงทำให้ไม่เกิดอุบัติเหตุขึ้นในหมู่คณะของเพื่อนๆตนเองที่มาด้วยกัน ตนคิดว่าถ้าหากตนหลบไม่ทันน่าจะได้รับปาดเจ็บสาหัส เพราะรถพ่วง 18 ล้อมีน้ำหนักมาก ขนาดมีล่องน้ำอยู่หน้ากำแพงปูน รถพ่วง 18 ล้อยังสามารถผ่านล่องน้ำไปชนจนกำแพงปูนพังได้
ส.ต.อ.ปัญญา กล่าวต่อว่า ที่รอดจากอุบัติเหตุในครั้งนี้ได้อาจเป็นเพราะบารมีของเหรียญพระอาจารย์อ๊อด วัดสายไหม รุ่น 24ปีผู้พิทักษ์สันติราษฎร์เพราะคณะที่มาด้วยกันห้อยพระรุ่นนี้กันหมดทุกคน และซึ่งก่อนหน้านี้เพื่อนตำรวจก็เคยประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์รถพังยับ แต่ตำรวจที่อาศัยมาในรถต่างรอดตายกันหมด ไม่มีแม่รอยขีดข่วน