จากกรณีที่สร้างกระแสฮือฺา ในโลกออนไลน์อย่างมาก เมื่อ ร้านเคเอฟซี ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ พบว่าร้านดังกล่าวเป็นของ บริษัท เดอะ คิวเอสอาร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (QSA) ของกลุ่มไทยเบฟ ซึ่งเป็นหนึ่งในสามแฟรนไชส์ซี กับ บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด
เจ้าของแฟรนไชส์ร้านเคเอฟซีในประเทศไทย ที่แตกต่างจากสาขาอื่น คือ เป็นร้านในคอนเซปต์ที่เรียกว่า "เดคเอฟซี ดิจิทัล ไลฟ์สไตล์" (KFC Digital Lifestyle) เป็นสาขาเดียวที่ไม่มีแคชเชียร์ และไม่รับเงินสด
โดยการสั่งอาหารจะเป็นการสั่งผ่านจอทัชสกรีน ชำระเงินผ่านบัตรเครดิต บัตรเดบิต คิวอาร์โค้ด พร้อมเพย์ จากนั้นให้รอที่หน้าจุดรับอาหารที่เรียกว่า Pick Up Box ลักษณะคล้ายกับล็อกเกอร์ เมื่อหน้าจอระบุหมายเลขออเดอร์และหมายเลขล็อกเกอร์ ให้นำใบเสร็จรับเงินที่มีบาร์โค้ดท้ายใบเสร็จมาสแกน แล้วประตูล็อกเกอร์จะเปิดให้รับถาดอาหาร และแก้วเปล่าสำหรับเติมเครื่องดื่มแบบรีฟิล ซึ่งวิธีการนี้ออกแบบมาเพื่อลดการสัมผัส ตามแนวทางชีวิตวิถีใหม่ (New Normal)
สำหรับการจำหน่ายเบียร์ภายในร้าน พบว่ามีเคาน์เตอร์พร้อมหัวจ่ายเบียร์ 2 หัว บริเวณด้านข้างจุดรับอาหาร จำหน่ายเบียร์สดขนาด 12 ออนซ์ ยี่ห้อหนึ่ง (ขอสงวนชื่อแบรนด์) ในราคาแก้วละ 89 บาท โดยจะมีพนักงานเป็นคนสกรีนลูกค้า รับออเดอร์และรินใส่แก้วให้ลูกค้า จำหน่ายเฉพาะผู้ที่มีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปเท่านั้น ในเวลาตามที่กฎหมายกำหนด คือ 11.00-14.00 น. และ 17.00 น. ถึงเวลาปิดทำการของร้าน ไม่เกิน 24.00 น. และรับชำระผ่านบัตรเครดิตเท่านั้น ไม่รับเงินสด
อย่างไรก็ตาม จากการสังเกตพบว่าคนที่ซื้อเบียร์สดมาดื่ม ส่วนมากจะเป็นวัยทำงาน และคนที่มาจับจ่ายซื้อของในศูนย์การค้า เนื่องจากตั้งอยู่ในศูนย์การค้าที่มีกลุ่มลูกค้าเป็นคนที่มีกำลังซื้อสูง และไม่พบว่ามีเยาวชนซื้อและดื่มเบียร์สดแต่อย่างใด ถึงกระนั้น สำหรับร้านเคเอฟซีสาขาแรกในไทยที่จำหน่ายเบียร์ คือ สาขาอาคารเดอะพาร์ค พระราม 4 โดยเดอะ คิวเอสอาร์ ออฟ เอเชีย จะพิจารณาจากกลุ่มเป้าหมายชัดเจน เช่น กลุ่มคนทำงาน และสาขาในเมืองท่องเที่ยวที่มีชาวต่างชาติ