จากกรณีที่กลายเป็นประเด็นร้อนแรงที่ชาวเน็ตให้ความสนใจอย่างมาก เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งได้ขายกระเป๋าแบรนด์เนมยี่ห้อ Hermès ใบละครึ่งล้าน ให้กับเจ้าของร้านขายกระเป๋าหรูในอินสตาแกรม ในราคาประมาณ 4 แสนบาท ต่อมาทางเจ้าของร้านได้กล่าวหาว่ากระเป๋าใบดังกล่าวเป็นกระเป๋าปลอม พร้อมกับใช้ปากกาเขียนคำว่า "ปลอม" บนกระเป๋า
ก่อนลั่นวาจาว่า ถ้ากระเป๋าใบนี้เป็นของจริง ตนเองยอมจ่าย 2 ล้านบาท และยอมเลิกเป็นกะเทย พร้อมจะเปลี่ยนชื่อเป็น "สรพงษ์" ซึ่งต่อมาทาง สถาบันสอนดูกระเป๋าแบรนด์เนมชื่อดัง ได้ตรวจสอบกระเป๋าใบดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นเผยเป็นของแท้ และต้องรอผลตรวจกระเป๋า Hermès จากต่างประเทศเพื่อยืนยันอีกครั้ง
กระทั่งผลตรวจ กระเป๋า Hermès จากสถาบันตรวจของแบรนด์เนมจากสหรัฐอเมริกา 2 สถาบัน ซึ่งได้แก่ bababebi และ real authentication รับรองผลการตรวจกระเป๋า Hermès ใบที่กำลังเป็นประเด็นแล้ว พร้อมยืนยันว่า Hermès ใบนี้เป็นของแท้แน่นอน 100 เปอร์เซ็นต์
ล่าสุด น.ส.จิดาภา ชีนารักษ์ อายุ 24 ปี เจ้าของกระเป๋า Hermès พร้อมด้วย ทนายเกิดผล แก้วเกิด ได้มาออกรายการโหนกระแส เผชิญหน้ากับ ทีน่า หรือ สรพงษ์ ละหงษ์ เจ้าของร้านขายกระเป๋าหรูในอินสตาแกรม คู่กรณี ได้มาถกประเด็นดังกล่าวในรายการโดยมี หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย พิธีกร จอมขยี้เป็นผู้ดำเนินรายการ
เกี่ยวกับเรื่องนี้หลังจากที่ ทั้งสองฝ่ายได้เคลียร์กันประเด็นหลักเรื่อง กระเป๋า Hermès ปลอมหรือไม่ไปแล้ว ซึ่งผลจากการตรวจสอบก็ชี้ชัดว่า Hermès ของ น.ส.จิดาภา นั้นเป็นของแท้ ซึ่ง หนุ่ม กรรชัย ได้สรุปจบในรายการว่า "เอาเป็นว่า เรื่องนี้แน่ๆ ประเด็นหลักๆ เลยคือ เรื่องราวทางฝั่ง น.ส.จิดาภา เองที่ได้ขายกระเป๋าเขาไป และเขามีการท้ามา ถือเป็นคำมั่น ซึ่งทางทนายเกิดผลบอกแล้วว่า ยังไงก็ต้องจ่าย แต่คู่กรณีบอกว่ามันเป็นเป็นแค่การพนัน แต่อันนี้เดี๋ยวไปว่ากันในชั้นศาลอีกที
ประเด็นที่สองคือในเรื่องของเพศสภาพ ที่บอกว่าฉันจะเลิกเป็นกะเทย คือ .. ไม่ได้เลย อันนี้เราเข้าใจจริงๆ จะไปว่าก็ไม่ได้ แต่อยากจะบอกจริงๆ เลยนะว่า ขอโทษนะ ถ้าพูดภาษาชาวบ้านคือ ปากพล่อย เพราะว่าเราต้องคิดถึงความเป็นจริงอีกด้วยว่า ถ้าอะไรก็ตามแต่ที่จะให้มาทำให้เราเป็นเพศสภาพไปนั้น มันเป็นไปไม่ได้ อันนี้คือถือว่าพล่อย ที่พูดออกไป
ก่อนที่ ทีน่า หรือ สรพงษ์ จะบอกว่า เธออยากให้มั่นใจในเรื่องของกระเป๋า แต่ หนุ่ม กรรชัย ก็ได้สวนกลับขึ้นมาอีกว่า "แต่คนไม่ได้มองตรงนั้น คนเขามองตรงที่ คุณกล้าพูด กล้าท้า แล้วกล้าทำอย่างที่ท้าหรือไม่ ที่ไปเล่นกับความเป็นจริงแบบนี้ แค่นั้น" จากนั้น ทนายเกิดผลก็ได้เสริมว่า "คุณทีน่า รู้จักข้อแตกต่างระหว่าง การพนัน กับคำมั่นมั้ยครับ ถ้าไม่รู้จักไม่เป็นไร ขึ้นศาลเดี๋ยวก็รู้"
สุดท้ายข้อที่สาม ฉันจะเปลี่ยนชื่อเป็น "สรพงษ์" คุณต้องเปลี่ยน แล้วหลังจากที่คุณเป็นเสร็จ ช่วยนำบัตรประชาชนที่คุณเปลี่ยนชื่อนั้นมาโชว์ในโลกโซเชียล เพื่อยืนยันว่าคุณทำแล้วในสิ่งที่คุณพูด ซึ่ง ทีน่า หรือ สรพงษ์ บอกว่า "ยินดีค่ะ" จากนั้น หนุ่ม กรรชัย ก็ได้ถามนามสกุล ก่อนที่ ทีน่าจะมีอาการหน้าเสียนิดๆ แต่ หนุ่ม กรรชัย ก็ระบุเพิ่มว่า เราไม่ได้เจตนาเหยียดหรืออะไรคุณนะ
"ผมเข้าใจความรู้สึกของคุณดี แต่ในเมื่อมันคือการพนันอย่างที่คุณพูด คุณก็ต้องทำ 2 ล้านไปว่าบนชั้นศาล เพศสภาพผมเข้าใจได้ว่าคุณเปลี่ยนไม่ได้หรอก แต่ทั้งหมดมันก็คืออย่างที่ผมบอกว่า มันคือพล่อย อย่างที่ผมได้พูดออกไป อย่าทำแบบนี้อีก การขายของมือสองสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ มันต้องแม่นด้วยนะ อย่ามั่นใจเกิน ต้องชัวร์ก่อนตัดสินใจ เพราะถ้าเราพลาด มันก็จะกลายเป็นประเด็นในสังคมแบบนี้ต่อไป" หนุ่ม กรรชัย สอน
แต่หลังจาก หนุ่ม สรุปประเด็นส่งท้าย ก็แอบวางบอมพ์ หนึ่งแมตช์ เนื่องจาก หนุ่ม กรรชัย สังเกตเห็นว่า น.ส.จิดาภา เหล่มอง ทีน่า ด้วยหางตา ก่อนที่หนุ่มจะถามขึ้นว่า น้องมองเขาแบบนั้นทำไม แต่ น.ส.จิดาภา ก็ระบุว่า เธอมองแบบนี้เป็นปกติอยู่แล้ว งานนี้ทำเอา ทนายเกิดผล ถึงกับเอ่ยปากบอกเลยว่า "พี่หนุ่ม ไม่แผ่วเลยจริงๆ"
ข้อมูลจาก โหนกระแส