ช้อปดีมีคืน ของขวัญปีใหม่ 65 ลดภาษีสูงสุด 30,000 ครม.เคาะ เริ่ม 1 ม.ค.-ก.พ.65

21 ธันวาคม 2564

ด่วน ครม.ไฟเขียวโครงการ "ช้อปดีมีคืน" กลับมาอีกรอบ เป็น "ของขวัญปีใหม่ 2565" ให้ประชาชน ลดภาษีสูงสุด 30,000 บาท เริ่ม 1 ม.ค.-ก.พ.2565 นี้

วันที่ 21 ธ.ค. มีรายงานจากที่ประชุม ครม.มีมติ เห็นชอบมาตรการ "ช้อปดีมีคืน" เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 2565 เป็น "ของขวัญปีใหม่ 2565" โดยขั้นตอนต่อไปประกาศร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ...)ประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (มาตรการช้อปดีมีคืน ปี 2565) เป็นการกำหนดให้ผู้มีเงินได้ ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคล ที่มิใช่นิติบุคคล หักลดหย่อนค่าซื้อสินค้า หรือค่าบริการเท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อสินค้า หรือค่าบริการสำหรับการซื้อสินค้า หรือการรับบริการในราชอาณาจักร ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 30,000  บาทตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 

 

ช้อปดีมีคืน ของขวัญปีใหม่  65  ลดภาษีสูงสุด 30,000 ครม.เคาะ เริ่ม 1 ม.ค.-ก.พ.65

โครงการช้อปดีมีคืน ซึ่งได้นำกลับมาใชัใหม่ตามคำเรียกร้องของภาคเอกชน ที่ต้องการให้รัฐบาลออกมาตรการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วงปลายปีนี้ และต้นปีหน้า โดยจะมีการให้สิทธิซื้อสินค้า เพื่อนำวงเงินไปใช้ในการลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปีสูงสุด 30,000 บาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เป็น "ของขวัญปีใหม่ 2565"

ทั้งนี้ จากสถิติย้อนหลังที่มีการใช้มาตรการ "ช้อปดีมีคืน" จะเห็นว่าในช่วงปี 2558 (ตอนนั้นใช้ชื่อมาตรการช็อปช่วยชาติ) ระยะเวลาโครงการรวมทั้งหมด 7 วัน (25-31 ธ.ค. 2558) วงเงินสะพัด 9,000 ล้านบาท จากภาษีที่ลดหย่อนได้ 15,000 บาท ต่อมาในปี 2559 ระยะเวลาโครงการรวมทั้งหมด 18 วัน (14-31 ธ.ค. 2559) วงเงินสะพัด 17,000 ล้านบาท จากภาษีลดหย่อนที่ได้ 15,000 บาท

ถัดมาในปี 2560 ระยะเวลาโครงการรวมทั้งหมด 23 วัน (11 พ.ย.-3 ธ.ค. 2560) วงเงินสะพัด 22,500 ล้านบาท จากภาษีลดหย่อนที่ได้ 15,000 บาท และในปี 2561 ระยะเวลาโครงการรวมทั้งหมด 1 เดือน (15 ธ.ค. 2561-15 ม.ค. 2562) วงเงินสะพัด 12,000 ล้านบาท จากภาษีลดหย่อนที่ได้ 15,000 บาท และเมื่อปี 2563 ระยะเวลา โครงการรวมทั้งหมด 2 เดือน 7 วัน (23 ต.ค.-31 ธ.ค. 2563)  วงเงินสะพัด 111,000 ล้านบาท จากภาษีลดหย่อนที่ได้ 30,000 บาท