จากกรณีดราม่า "กระเป๋าแอร์เมส" ว่าเป็นของเเท้หรือของปลอม ล่าสุดในรายการโหนกระเเส ได้มีเเขกรับเชิญคู่กรณี "น้องชมพู่" เจ้าของกระเป๋าเเอร์เมส กับ "ทีน่า" หรือ "นายสรพงษ์" เเม่ค้าออนไลน์เจ้าของร้านรับซื้อแบรนด์เนม
หลัง "ทีน่า" ประกาศกร้าว หากกระเป๋าใบนี้เป็นของเเท้จะจ่าย 2 ล้าน พร้อมเลิกเป็นกะเทย ก่อนได้ข้อสรุปว่า ทีน่าจะเปลี่ยนชื่อเป็น "สรพงษ์" เเต่ไม่ยอมจ่าย 2 ล้าน เพราะเเค่พูดเล่นๆ แต่จะยอมเปลี่ยนชื่อเท่านั้น
หากพูดถึงกูรูตัวจริงของ "กระเป๋าแอร์เมส" หลายคนคงจะนึกถึง "พญ.ของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์" หรือ "หมอของขวัญ" ผู้ซึ่งคลั่งไคล้และหลงใหลกระเป๋าแบรนด์เนม "แอร์เมส" จนถูกขนานนามว่า "เจ้าแม่แอร์เมส" เพราะเธอมีกระเป๋ากระเป๋าแอร์เมสสะสมไว้เป็นมาก และที่สำคัญแต่ละใบมีราคาถึงหลักแสน-ล้านเลยทีเดียว
"หมอของขวัญ เปิดใจว่า ตนเป็นคนที่ชอบใช้ของดี ตอนที่เรียนจบใหม่ ๆ ก็ได้ทำงานที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งตนก็มีความสนใจด้านการตลาด ซึ่งแนวทางการตลาดที่ตนสนใจเป็นพิเศษคือของแบรนด์ "แอร์เมส" เพราะเป็นแบรนด์ที่มีมาถึง 200 ปีแล้ว แต่ยังคงคลาสสิคไม่ตกยุคเลย และ ณ ทุกวันนี้ก็ยังมีคนต่อคิวซื้อกระเป๋าที่ปารีสอย่างมากมาย โดยราคาจะขึ้นอยู่กับหนังที่ใช้ทำ ถ้าหนังธรรมดาก็ราว 3 แสนบาท ส่วนรุ่นเบอร์กิ้น ที่ทำจากหนังจระเข้ที่มีการเลี้ยงอย่างดี บุนวมไม่ให้ผิวของจระเข้ถลอกเลยแม้แต่นิดเดียว ซึ่งมีราคานับล้านบาท
ทั้งนี้ หมอของขวัญ เผยอีกว่า ใบแรกที่ได้มาเป็นเบอกิ้นสีขาวแสนกว่าบาท ส่วนใบที่แพงที่สุด 3.5 ล้านบาทค่ะ มีเพชรด้วย มีทั้งหมดประมาณ 200 ใบ อะไรที่ทำให้ชอบหรอคะ คือมันคือที่สุดแล้วค่ะ ต้องเอาให้สุดค่ะ บางใบเป็นปียังไม่เคยถือเลย เราเคยซื้อกระเป่าแสนกว่าบาทขายได้ 3 แสนค่ะ คือเราลงทุนไปก็ได้กำไร อีกใบนึงซื้อมา 8 แสนขายไป 1.6 ล้านได้กำไรตลอด สะสมมา 10 กว่าปีแล้ว
ซื้อแรกๆ ก็ปีละใบ พอมีเงินตอนว่างตอนท้องซื้อเยอะที่สุด 5 ใบวันเดียว แต่ไม่ได้ใช้ครบทุกใบนะเป็นแบบสะสม ความสุขคือมันคือสินทรัพย์ มีคนทำวิจัยว่ากระเป๋าแอร์เมสกับชาแนลมีอัตราเร่งของการทำกำไรมากกว่าทอง เป็นคนสุดอ่ะคือซื้ออะไรก็เต็มที่ทำอะไรนิดเดียวไม่เป็นนอกจากนี้ยังมีสะสมนาฬิกาและเครื่องเพชรด้วยค่ะ